จุรินทร์ ปรับโหมดออนไลน์ เพิ่มช่องทางส่งออก 'ผลไม้-สินค้าเกษตร' ช่วงโควิด
จุรินทร์ ปรับโหมดออนไลน์ เพิ่มช่องทางส่งออก ‘ผลไม้-สินค้าเกษตร’ ช่วงโควิด
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 29 พฤษภาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ใช้เวลาใน ชี้แจง ในสภาเกี่ยวกับพระราชกำหนด 3 ฉบับ ในช่วงคำถามของสมาชิกสภาฯเกี่ยวกับสินค้าทางการเกษตรในสถานการณ์โควิด-19 โดยปรับรูปแบบการส่งออกเพิ่มช่องทางมามุ่งเน้นออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง สำหรับกรณีตลาดการส่งออกอ๊อฟไลน์โดยเฉพาะ ช่องทางบกเน้นการส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียงและกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการดำเนินการในเรื่องการเจรจาเปิดด่านมาโดยต่อเนื่องเพื่อให้การขนส่งสินค้าทางการเกษตรจากประเทศไทยผ่านลาวและเวียดนามไปสู่จีนตอนใต้มีความคล่องตัวที่ชัดเจน คือ สามารถทำให้ด่านสำคัญ เช่น ด่านโหย่วอี้กวน ด่านผิงเสียง และที่ประสบความสำเร็จเป็นพิเศษก็คือการเจรจาระหว่างทูตเกษตรทูตพาณิชย์ของไทยกับทางการจีนช่วยให้จีนเปิดด่านตงซิง เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 ที่ผ่านมาและช่วยให้สินค้าที่เกษตรของไทยสามารถส่งออกไปยังจีนได้คล่องตัวขึ้น
ด้านทางใต้ของประเทศไทยที่ด่านปาดังเบซาร์ ก่อนหน้านี้มาเลเซียอนุญาตให้เราส่งสินค้าข้ามมาเลเซียและส่งออกไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกไปยังท่าเรือปีนังปรากฏว่าอนุญาตเฉพาะผลิตภัณฑ์ยางและผลิตภัณฑ์บางตัว เรื่องนี้ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรไปเจรจากับรัฐบาลของประเทศ มาเลเซีย และตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีการค้าของมาเลเซียจนมาเลเซียได้อนุญาตให้สามารถส่งผลิตภัณฑ์ยาง น้ำยางข้น ไม้ยาง ผลไม้ และสินค้าทุกชนิด ผ่านแดนจากประเทศไทยข้ามไปประเทศมาเลเซียผ่านด่านปาดังเบซาร์ได้เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2563
ด้านตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะผลไม้ซึ่งพึ่งตลาดส่งออกมากในช่วงระยะเวลานี้ กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อมาชดเชยตลาดออฟไลน์ที่ขาดหายไปด้วยการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ของต่างประเทศที่เราได้ร่วมมือร่วมใจกันเป็นช่องทางในการระบายผลไม้สินค้าเกษตร เช่น Tmall ของจีน Bigbasket.com ของอินเดีย Amazon ของอเมริกาและสิงคโปร์ KlangThai ระบายไปยังกัมพูชา Lotte ประเทศเกาหลี Jatujakmall , CloudCommerce ไปยังสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย รวมทั้ง blibli.com ไปยังประเทศอินโดนิเซีย JD.com และThaimart ไปยังตะวันออกกลางเป็นต้น ทั้งหมดช่วยเพิ่มยอดส่งออกให้กับสินค้าของประเทศไทยภายใต้สถานการณ์โควิด-19
กระทรวงพาณิชย์ ได้วางแผนล่วงหน้าและ จัดเทศกาลที่เรียกว่า Thai Fruits Golden Months พฤษภาคม-มิถุนายน ทำโปรโมชั่นผลไม้ และมีการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจที่เรียกว่า Business Matching ระหว่างผู้ซื้อจากต่างประเทศ คือผู้นำเข้า 50 บริษัทและผู้ส่งออกจากประเทศไทย 80 บริษัทผ่านระบบออนไลน์ สามารถจับคู่ทำธุรกิจกันได้หลายประเทศ เป็นเงิน 800 ล้านบาท มีการลงนาม MOU ระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าฮ่องกงและสิงคโปร์ ขายผลไม้อบแห้งหรือสินค้าทางการเกษตร 1000 ล้านบาท ทั้ง ทุเรียน ส้มโอ มะม่วง ลำไย สละ มะนาว หน่อไม้ฝรั่งและพริกสด รวมทั้งผลไม้อบแห้ง” นายจุรินทร์ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ทำหน้าที่เซลล์แมนประเทศทำคลิปสื่อสารในตลาดจีนขอให้ชาวจีนได้ช่วยบริโภคสินค้าจากประเทศไทยรวมทั้งผลไม้ไทยในช่วง Thai Fruits Golden Months ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี และยังเตรียม การส่งเสริมการขายใน 9 มณฑลของจีนต่อเนื่องไปในช่วง 3 เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตห้างสรรพสินค้าชั้นนำของแต่ละมณฑล ประกอบด้วย ชิงเต่า หนานหนิง เฉิงตู ฉงชิ่ง ซีอาน คุณหมิง เซี่ยงไฮ้ เซี่ยเหมิน กวางโจและฮ่องกง เพื่อขายทั้งในรูปแบบอ๊อฟไลน์ และตลาดออนไลน์ การดำเนินการโดยต่อเนื่องของกระทรวงพาณิชย์ ช่วยให้สินค้าสำคัญมียอดส่งออกเป็นลำดับสำคัญของโลก คือ 1.ทุเรียนส่งออกอันดับ 1ของโลก คือ มากกว่าฮ่องกงมาเลเซียหลายเท่าตัวแม้ในสถานการณ์โควิดนำรายได้เข้าประเทศได้ถึง 24,397 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ตลาดจีน ฮ่องกง และอาเซียน เป็นต้น โดยส่วนหนึ่งอาจเกิดจากผลที่กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลทำ FTA กับหลายประเทศ ทำให้ภาษีนำเข้าเป็น0ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของเราเพิ่มขึ้น 2.เนื้อหมู เนื้อหมูแช่แข็ง แช่เย็น ส่งออกได้เป็นลำดับ1ของอาเซียน เฉพาะเดือนมกราคม-เมษายน ส่งออกให้ได้ถึง 1,085 ล้านบาท ตลาดสำคัญมีทั้งฮ่องกงและลาวกัมพูชา เมียนมาและในส่วนกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้ตัวเลขส่งออกในภาพรวมของประเทศไทย 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นบวกต่อเนื่องกัน ในเดือนมีนาคมที่ตัวเลขส่งออกประเทศไทยบวกร้อยละ 4.17 เมษายน บวกร้อยละ 2.12