รีเซต

กรมวิทย์ฯเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส hMPV ทางห้องปฏิบัติการ พบผู้ป่วยตลอดทั้งปี

กรมวิทย์ฯเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส hMPV ทางห้องปฏิบัติการ พบผู้ป่วยตลอดทั้งปี
TNN ช่อง16
13 มกราคม 2568 ( 14:58 )
9
นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบาดของเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (Human Metapneumovirus) หรือ ไวรัส hMPV ที่ต่างประเทศว่า โรคติดเชื้อไวรัส hMPV เป็นไวรัสที่สามารถทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ  พบครั้งแรกในปี พ.ศ.2544 อยู่ในตระกูล Pneumoviridae เช่นเดียวกับไวรัสอาร์เอส (human respiratory syncytial virus) เมื่อติดเชื้อ hMPV จะมีระยะฟักตัวของโรคอยู่ที่ 3-6 วัน โดยจะมีอาการคล้ายกับการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น ไอ  มีไข้ คัดจมูก และหายใจลำบาก ผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันหรือปอดบวมได้ โดยเชื้อ hMPV สามารถแพร่กระจายจากคนที่ติดเชื้อไปยังผู้อื่นผ่านการไอหรือจาม การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ การสัมผัสสารคัดหลั่งแล้ว เชื้อเข้าทางปาก จมูก หรือดวงตา ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้นาน 1-2 สัปดาห์หลังจากแสดงอาการปัจจุบันการตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัส hMPV ทางห้องปฏิบัติการ ทำได้โดยการตรวจทางชีวโมเลกุล ด้วยวิธี Real-time RT-PCR จากตัวอย่างส่งตรวจจากระบบทางเดินหายใจ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังทางห้องปฏิบัติการเชื้อไวรัสชนิดนี้ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 โดยการตรวจสารพันธุกรรมของไวรัส ด้วยวิธี Real-time RT-PCR ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่และปอดบวมจากโรงพยาบาลเครือข่ายทั่วประเทศ และในปี พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส hMPV ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดในเดือนมกราคม จากนั้นพบการติดเชื้อลดลงอย่างชัดเจนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเมษายน โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อ hMPV ร้อยละ 2.9 จากจำนวนตัวอย่างเฝ้าระวังโรคระบบทางเดินหายใจทั้งหมด 10,695 ตัวอย่าง ส่วนมากพบในเด็กเล็กช่วงอายุ 0 -5 ปีนายแพทย์ยงยศ กล่าวต่ออีกว่า การรักษาส่วนใหญ่เป็นแบบประคับประคองตามอาการ ไม่ได้ร้ายแรงหรือไม่ได้มาหาหมอก็สามารถหายเองได้ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถป้องกันตัวเองจากโรคติดเชื้อไวรัส hMPV ซึ่งทำได้เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ดูแลเรื่องสุขลักษณะให้ร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือให้สะอาด และหากมีอาการไอ เจ็บคอ ให้สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอหรือจาม และสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่าย สำหรับเด็กที่ป่วยควรหยุดเรียน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่นทั้งนี้ โรงพยาบาลสามารถติดต่อสอบถามและส่งตัวอย่างเพื่อสอบสวนโรค ได้ที่ ศูนย์ประสานงานการตรวจวิเคราะห์และเฝ้าระวังโรคทางห้องปฏิบัติการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดนนทบุรี  โทรศัพท์ 0 2951 0000 ต่อ 99248 หรือ 99614 หรือที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง