รมช.ศึกษา ลงแก้ปัญหาเด็กเป็นโรคซึมเศร้า จนคิดฆ่าตัวตาย
สระแก้ว – รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ช่วยแก้ไขปัญหาเด็กเป็นโรคซึมเศร้า หลังเด็กนักเรียน ม.1 โรงเรียนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว พลัดตกจากอาคารเรียน เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 22 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์นักเรียนหญิง ระดับชั้น ม.1 กระโดดจากอาคารเรียน 4 ชั้น ของโรงเรียนอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากบริเวณชั้น 3 ของอาคารเรียน และตกกระแทกกับพื้นชั้นล่าง ทำให้เด็กเสียชีวิตขณะถูกนำส่งโรงพยาบาลอรัญประเทศ เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา โดยญาติและเพื่อนระบุว่า สาเหตุการก่อเหตุดังกล่าวนั้น มาจากปัญหาโรคซึมเศร้าของเด็กนักเรียนนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 19.30 น.วานนี้ (21 ก.พ.) นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สังกัด สพม.สระแก้ว โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียน หัวหน้าสถานศึกษา หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการสถานศึกษา นักจิตวิทยาจากเขตพื้นที่การศึกษา และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยครูโรงเรียนอรัญประเทศ ร่วมกันประชุมและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหานักเรียนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ที่ห้องประชุมโรงเรียนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้รับทราบข่าวว่าเด็กเสียชีวิตและได้รับความร่วมมือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ จึงเดินทางมาเป็นขวัญกำลังใจกับ ผอ.โรงเรียนและครู นักเรียนและผู้ปกครอง และอยากจะเรียนว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขและในส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้พูดคุยกันในแนวทางที่เราจะต้องใช้คำว่า ป้องกันที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ เป็นเหตุทำให้เกิดการเสียใจ ไม่ต้องการให้เกิดสิ่งเหล่านี้ จะมีวิธีการบูรณาการร่วมกัน ในการที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจ ที่จะใช้แนวทางของมิตรวัยรุ่นที่กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการอยู่
อย่างไรก็ตาม รมช.ศึกษาธิการ ยังวางแนวทางที่จะเพิ่มทักษะประเมินคัดกรอง การให้คำปรึกษา ทักษะการให้คำปรึกษาของคุณครูและจัดกิจกรรมอีคิว และระบบการอบรม ซึ่งต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กับกระทรวงศึกษาธิการ 2 กระทรวง จะเดินหน้าที่จะดูแลลูกหลานของเรา เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเรียน และมีความสุขกับการใช้ชีวิต ทางกระทรวงศึกษาร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข 2 กระทรวง ที่เราต้องวางแผนแนวทางร่วมกัน ในการที่จะทำให้เกิดศักยภาพ ประสิทธิภาพในการดูแลให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมต่อไป
—————————–