รีเซต

จับทิศลงทุน "MAJOR"

จับทิศลงทุน "MAJOR"
ทันหุ้น
14 ธันวาคม 2566 ( 13:32 )
109
จับทิศลงทุน "MAJOR"

#ทันหุ้น - บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ส่องหุ้น MAJOR คาด Q4/66 กำไรปกติเด่นสุดของปี จากหนังไทยทำรายได้ดีมาก ชดเชย หนังฮอลลีวูดที่รายได้อาจพลาดเป้า ป๊อปคอร์นกลับเข้าขาย 7-Eleven เต็มไตรมาส โฆษณารายได้โตจากการ re-contract ที่ได้ค่าโฆษณาสูงขึ้น และมี Defer Taxที่จะใช้ใน Q4/66-Q1/67 อีก 140 ล้านบาท ปี 2567 หนังฮอลลีวูดมีเข้าฉายต่อเนื่อง หนังไทยคาดมีเข้าฉาย 45-50 เรื่อง และเพิ่มโรง 45-50 โรงธุรกิจอื่น ๆ มีแนวโน้มเติบโต ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 22.20 บาท

 

Q4/66 คาดกำไรปกติจะดีสุดของปี 

 

จากความโดดเด่นของหนังไทย โดยหนัง “สัปเหร่อ-ธี่หยด-4 King ภาค 2” ทำให้MAJOR มีรายได้ขายตั๋ว (13ธ.ค.) ที่ 508 ล้านบาท 334 ล้านบาท และ 127 ล้านบาท ตามลำดับ โดยธี่หยดเป็นหนังร่วมทุนระหว่าง MAJOR กับ BEC ซึ่ง MAJOR จะรับรู้รายได้ตั๋วหนังและส่วนแบ่งกำไร โดยธี่หยดจะนำไปฉายในอีกกว่า 20 ประเทศ 

 

ส่วนหนังฮอลีวูด The Marvel และ Hunger Games มีรายได้ 48 ล้านบาท และ 23 ล้านบาท โดยรอการเข้าฉายของ Aquaman and the Lost Kingdom ในวันที่ 20 ธ.ค.จากการสัปเหร่อและธี่หยดที่ฉาย ต.ค. ทำให้เพียงเดือนเดียวสามารถทำให้คุ้มทุนได้ทั้งไตรมาสแล้ว 

 

อีกทั้งหนังที่ทำรายได้สูงจะส่งผลบวกไปยังรายได้จากอาหาร/เครื่องดื่ม และรายได้โฆษณาซึ่งมีการ re-contract สัญญา รายได้โฆษณาจะสูงขึ้น และกลาง ก.ย. ได้นำ “POPCORN MAJOR” กลับเข้าไปขายใน 7-Eleven อีกครั้ง ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากราคาที่ลดลงเหลือซองละ 28 บาท โดยมียอดขายเดือนละ 14-15 ล้านบาท 

 

ในขณะที่ธุรกิจโบว์ลิ่งดีขึ้นตามฤดูกาล อีกทั้งมี Defer Tax จากการขาย ZAA หรือ MPIC เดิม ที่จะใช้ลดหย่อนภาษีอีก 140 ล้านบาทในช่วง Q4/66-Q1/67 และเปิดโรงหนังปีนี้อีก 26 โรง ทำให้จำนวนโรงเพิ่มขึ้นเป็น 854 โรง

 

ปี 67 หนังใหญ่ยังมีเข้าฉาย, ป๊อปคอรน์ เพิ่มช่องทางขาย 

 

โดยหนังฮอลลีวูดเด่น ๆ ที่จะฉายปี 2567 ได้แก่ Deadpool 3, Kingdom Of The Planet Of The Apes, Godzilla x Kong: The New Empire, Dune: Part Two, Kraven the Hunter, A Quiet Place: Day One, Spider-Man: Beyond The Spider-Verse, Mufasa: The Lion King, Madame Web, The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim เป็นต้น รวมถึงหนังไทยที่ปีนี้คาดว่าจะเข้าฉายใกล้เคียงปี 2566 ที่ราว 45-50 เรื่อง โดยจะเห็นทีวีดิจิทัลหันมาทำหนังไทยมากขึ้นทั้ง ช่อง 3, ช่อง 7 และ WORK คุณภาพหนังน่าจะดีขึ้น และเป็นหนังที่ MAJOR ร่วมทุน 12-15 เรื่อง ส่วนแผนเพิ่มโรงหนังในปี 2567 คาดที่ 45-50 โรงเพิ่มขึ้นกว่าปี 2566 

 

ส่วนป๊อปคอร์นหลังหมดสัญญา exclusive กับ 7-Eleven เป็นเวลา 3 เดือน จะเพิ่มช่องทางขายมากขึ้นทั้งผ่าน Discount Store, Hypermarket, Supercenter ควบคู่กับการขายผ่านระบบเดลิเวอรีหน้าโรงภาพยนตร์ Kiosks และ Event คาดจะเห็นการเติบโตของธุรกิจป๊อปคอร์นที่ดีในปี 2567 และรายได้โฆษณาจะเติบโตดีจากการ re-contract สัญญา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง