ADVANCลั่นครึ่งปีหลังเด่น เปิดประเทศดันโรมมิ่งฟื้น
#ADVANC #ทันหุ้น – ADVANC มองครึ่งหลังปี 2565 เติบโตได้ดีกว่าครึ่งแรก รับเปิดประเทศหนุนรายได้ค่าโรมมิ่งฟื้นตัว พร้อมคงเป้ารายได้รวมทั้งปีโต 4-6% เชื่อลูกค้ากลาง-บน และลูกค้าองค์กรยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง เดินหน้าขยายโครงข่าย 5G เป็นหลัก
นางสาวนัฐิยา พัวพงศกร หัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และกำกับดูแลการปฏิบัติงาน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้ารายได้รวมทั้งปี 2565 เติบโต 4-6% จากปี 2564 ที่มีรายได้รวมที่ 182,605 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2565 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีกว่าช่วงครึ่งแรก หนุนจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ซึ่งจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศ รวมถึงมีนักท่องเที่ยวไทยบางส่วนเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ สนับสนุนรายได้ค่าโรมมิ่งให้ฟื้นตัวได้
*ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม
ขณะเดียวกัน เมื่อมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ จะเป็นปัจจัยหนุนให้รายได้รวมต่อหัวของประชากรในประเทศดีขึ้น ถือเป็นปัจจัยหนุนทางอ้อมให้ลูกค้าเป้าหมายมีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยบริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าเป้าหมาย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.สนับสนุนให้ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้โครงข่าย 5G โดยตั้งเป้าจำนวนลูกค้า ณ สิ้นปี 2565 ทั้งสิ้น 5 ล้านราย จาก ณ สิ้นไตรมาส 1/2565 ที่ 2.8 ล้านราย 2.ลูกค้าธุรกิจฟิกซ์บรอดแบนด์ ตั้งเป้าเพิ่มผู้ใช้บริการ ณ สิ้นปีที่ 2.2 ล้านราย และ 3.ลูกค้าองค์กร หรือ เอ็นเตอร์ไพร์ส คาดรายได้เติบโตต่อเนื่อง จากบริการคลาวด์ ดาต้า เซ็นเตอร์ และไอทีโซลูชั่น หนุนจากนำเทคโนโลยี และดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนการทำธุรกิจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2565 มีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา กดดันจากภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น รวมถึงบรรยากาศการแข่งขันในอุตสาหกรรม ทำให้บริษัทยังคงใช้กลยุทธ์ด้านราคาในการกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า รวมถึงเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับลูกค้า ดังนั้นจึงยังคงกดดันการขยายตัวของกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายทางดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2565 นี้มีแนวโน้มจะเติบโตในกรอบ 1-3% เมื่อเทียบกับปีก่อน
*รักษาอัตราทำกำไร
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงงบประมาณการลงทุนเฉลี่ยต่อปี ในระยะ 3-5 ปีนี้ระหว่าง 3-3.5 หมื่นล้านบาท โดยยังคงมุ่งเน้นการลงทุนโครงข่าย 5G, และลงทุนในธุรกิจฟิกซ์บรอดแบนด์เป็นหลัก โดยสำหรับปี 2565 นี้บริษัทจะพิจารณาลงทุนให้สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจกิจ ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรักษากระแสเงินสดสะสมและความสามารถในการจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงกว่า 70% ของกำไรตามนโยบาย
“บริษัทเน้นการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแม้ในสภาวะที่ยังคงต้องใช้กลยุทธ์โปรโมชั่น “อันลิมิเต็ด ดาต้า” ในระดับราคาระหว่าง 200-300 บาท จึงยังสามารถรักษาศักยภาพการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจได้มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนต่อปีจะเน้นลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการด้านการบริการของลูกค้าเป็นหลัก”
*ย้ำฐานทุนแข็งแกร่ง
สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ที่ร่วมมือกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และกลุ่มสิงเทล (SingTel)ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและจัดทำแผนธุรกิจหากมีความชัดเจน จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) โดยจะแจ้งความคืบหน้าผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่นเดียวกับการจัดตั้ง AISCB ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
ด้านผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 45,279 ล้านบาท ลดลง 1.35% YoY และมีกำไรสุทธิ 6,311 ล้านบาท ลดลง 5.0% YoY เป็นผลจากการลงทุนในคลื่นความถี่เพิ่มเติมในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม และยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมพร้อมความครอบคลุมของโครงข่าย 5G และ เน็ตบ้าน อย่างต่อเนื่อง