มือถือ Android แต่ละค่าย อัปเดตเวอร์ชันใหม่ได้กี่ปี

ข้อมูลเกี่ยวกับการอัปเดต Android เวอร์ชันใหม่ของมือถือแต่ละค่าย มักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และแต่ละค่ายก็มีนโยบายที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรุ่นและราคาของโทรศัพท์ด้วย และโดยทั่วไปแล้ว โทรศัพท์รุ่นเรือธงหรือระดับพรีเมียมจะได้รับการอัปเดตที่ยาวนานกว่ารุ่นระดับกลางหรือระดับล่างเป็นส่วนมาก ซึ่ง ณ ปัจจุบัน (อัปเดต พฤษภาคม 2568) แนวโน้มและนโยบายการอัปเดตของแต่ละค่ายเป็นดังนี้:
1. Google Pixel:
- เป็นผู้นำด้านการอัปเดต: เนื่องจาก Google เป็นผู้พัฒนาระบบ Android เอง ทำให้ Pixel ได้รับการอัปเดตเร็วที่สุดและยาวนานที่สุด
- Pixel 8 series และใหม่กว่า (ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา): ได้รับประกันการอัปเดตระบบปฏิบัติการ (OS updates) นานถึง 7 ปี และอัปเดตความปลอดภัย (security patches) 7 ปี
- Pixel 6 และ Pixel 7 series: ได้รับการขยายการสนับสนุนเป็น 5 ปี สำหรับทั้ง OS และ Security Updates
2. Samsung Galaxy:
- เป็นผู้แข่งขันหลักกับ Google: Samsung ได้ยกระดับนโยบายการอัปเดตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
- Galaxy S24 Series และใหม่กว่า (รวมถึง Z Flip, Fold และ Galaxy Tab S10 series ที่เปิดตัวในปี 2024 เป็นต้นไป): สำหรับตระกูลเรือธงยุคใหม่ จะได้รับประกันการอัปเดต OS 7 ปี และ Security Patches 7 ปี ถือว่าเทียบเท่า Google
- รุ่นเรือธงอื่นๆ (ตั้งแต่ Galaxy S21 - S23 series, Z Flip 3 - Z Fold 5): ส่วนใหญ่ได้รับการอัปเดต OS 4 ปี และ Security Patches 5 ปี
- รุ่นระดับกลาง (เช่น Galaxy A Series): บางรุ่นได้รับการอัปเดต OS 4 ปี และ Security Patches 5 ปี หรือ 6 ปี ถือว่านานพอสมควร
3. OnePlus:
- รุ่นเรือธง (เช่น OnePlus 12 และใหม่กว่า): ได้รับการอัปเดต OS 4 ปี และ Security Patches 5 ปี
- รุ่นระดับกลาง (Nord series): มักจะได้อัปเดต OS 2-3 ปี และ Security Patches 4 ปี
4. OPPO:
- รุ่นเรือธง (เช่น Find X series ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป): ได้รับการอัปเดต OS 4 ปี และ Security Patches 5 ปี
- รุ่นระดับกลาง: มักจะได้รับการอัปเดต OS 2 ปี และ Security Patches 4 ปี
- รุ่นประหยัด (A series): ส่วนใหญ่อาจได้รับการอัปเดต OS เพียง 1 ปี และ Security Patches 3 ปี หรือบางรุ่นอาจไม่ได้รับการสนับสนุนเลย
5. Xiaomi / Redmi / POCO:
- รุ่นเรือธง (เช่น Xiaomi 14 series): ได้รับการอัปเดต OS 4 ปี และ Security Patches 5 ปี
- รุ่นอื่นๆ: ระยะเวลาการอัปเดตจะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นระดับกลางและราคาประหยัดมักจะได้รับการอัปเดตที่สั้นกว่า (เช่น 2-3 ปีสำหรับ OS และ 3-4 ปีสำหรับ Security Patches)
6. vivo:
- รุ่นเรือธง (เช่น vivo X100 series): ได้รับการอัปเดต OS 3 ปี และ Security Patches 4 ปี
- รุ่นอื่นๆ: ระยะเวลาจะแตกต่างกันไป
7. Honor:
- รุ่นเรือธง (บางรุ่น): เริ่มให้การอัปเดตยาวนานขึ้น โดยมีบางรุ่นที่ประกาศ 7 ปี (แต่ข้อมูลในตลาดไทยอาจยังไม่ชัดเจนเท่า Google/Samsung)
- รุ่นอื่นๆ: โดยทั่วไปอาจจะอยู่ที่ 2-3 ปี
8. Motorola / Sony / ASUS:
- โดยทั่วไปแล้ว แบรนด์เหล่านี้มักจะให้การอัปเดต OS ประมาณ 2-3 ปี และ Security Patches 3-4 ปีสำหรับรุ่นเรือธง
ข้อสังเกตที่สำคัญ:
- OS Updates vs. Security Patches: สิ่งสำคัญคือต้องแยกความแตกต่างระหว่างการอัปเดตเวอร์ชันระบบปฏิบัติการ (เช่น จาก Android 14 เป็น Android 15) กับการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัย (Security Patches) ซึ่งเป็นการแก้ไขช่องโหว่และข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย โดยปกติแล้ว การอัปเดตความปลอดภัยมักจะมีระยะเวลาที่ยาวนานกว่าการอัปเดตเวอร์ชัน OS
- รุ่นเรือธง vs. รุ่นอื่นๆ: นโยบายการอัปเดตที่ยาวนานมักจะให้สำหรับรุ่นเรือธงหรือรุ่นพรีเมียมของแต่ละแบรนด์เท่านั้นเสียส่วนใหญ่ ส่วนรุ่นกลางและรุ่นล่างจะได้รับสิทธิ์น้อยกว่า
- ความเร็วในการอัปเดต: แม้จะได้รับการอัปเดตนาน แต่ความเร็วในการปล่อยอัปเดตก็แตกต่างกันไป โดย Google Pixel มักจะได้รับก่อนใคร ตามมาด้วย Samsung และแบรนด์อื่นๆ
- Qualcomm และ Google จับมือกัน: Qualcomm และ Google ได้ประกาศความร่วมมือที่จะขยายการสนับสนุนซอฟต์แวร์ Android เป็นสูงสุด 8 ปี สำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon 8 และ 7 series รุ่นใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในปี 2025 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม การจะได้รับอัปเดตเต็ม 8 ปีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ผลิตโทรศัพท์แต่ละราย
ดังนั้น หากเพื่อนๆ ต้องการโทรศัพท์ Android ที่ได้รับการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ๆ ไปอีกหลายปี หรือเป็นคนที่ใช้โทรศัพท์นานจึงเปลี่ยนรุ่นใหม่ ควรเลือกซื้อรุ่นเรือธงจะเหมาะสมกว่า เพราะการอัปเดตซอฟท์แวร์ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากแอปพลิเคชันบางประเภท เช่น แอปธนาคาร อาจจำเป็นต้องอาศัยการอัปเดตซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นปัจจุบันอยู่เสมอ เพราะต้องอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในการเจาะข้อมูลของผู้ไม่หวังดี เป็นต้น