Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 วันที่ 11-12 พ.ย. สามย่าน มิตรทาวน์
#Blockchain #ทันหุ้น - ในภาวะที่ “บล็อกเชน” เป็นคำที่ถูกค้นหาและพูดถึงเป็นอย่างมากในปัจจุบัน และตลาดคริปโทฯ กำลังเผชิญกับภาวะตลาดชะลอตัว ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ มีความผันผวน อย่างไรก็ตาม ยังมีนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่เชื่อว่าตลาดคริปโทฯ นั้นอยู่ในช่วงขาลงเพียงแค่ชั่วคราว และ “บล็อกเชน” ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่สามารถจะเติบโตได้
ภายในงานแถลงข่าว Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 นายสัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงานได้ร่วมเผยมุมมองต่อเทคโนโลยีบล็อกเชน, การพัฒนา Web3.0, ตลาดคริปโทฯ และเหตุผลในการจัดงาน Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 มหกรรมงานบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ภายใต้ธีม “Build in Bear, Rise in Bull” ว่า
“เริ่มจาก BTC Halving เหตุการณ์ที่จำนวน Bitcoin ใหม่ที่ขุดได้จะลดลงครึ่งหนึ่ง โดยเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปี และ BTC Halving ครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 ซึ่งจะส่งผลให้อุปทานของ Bitcoin ลดลง ประกอบกับเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และถูกนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม สิ่งนี้ส่งผลให้ตลาดคริปโทฯ มีฐานผู้ใช้งานที่กว้างขึ้น มีโอกาสเติบโตในอนาคต รวมถึงหลายประเทศเองก็มีการเปิดรับบล็อกเชนมากขึ้น ซึ่งในงาน Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 นี้ ได้รับเกียรติจาก “HashKey Capital” ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ระดับโลกจากฮ่องกง มาร่วมเป็น “Branded Sponsor” ผู้สนับสนุนหลัก ผลักดันอุตสาหกรรมคริปโทฯ ในประเทศไทยไปด้วยกัน” นายสัญชัย กล่าว
“นอกจากนี้ สินทรัพย์ดิจิทัลและผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อกเชน ยังได้การยอมรับจากภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล Web 3.0 และการเติบโตของตลาดคริปโทฯ”
Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 ครั้งที่ 6 ภายใต้แนวคิด "Build in Bear, Rise in Bull" จึงจัดขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจเทคโนโลยีตลอดจนนักลงทุนใช้เวลาในช่วงตลาดชะลอตัวเพื่อศึกษาหาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ช่วงตลาดขาขึ้นหรือตลาดกระทิง โดยนักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ในการพัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีและลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยงานดังกล่าวจัดเต็ม 2 วัน ระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์การค้าใจกลางเมือง Samyan Mitrtown Hall
ภายในงานพบกับผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน นำโดย นายพิริยะ สัมพันธารักษ์ (อ.ตั๊ม) และ นายโฉลก สัมพันธารักษ์ (ลุงโฉลก) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล นายกานต์นิธิ ทองธนากุล เจ้าของเพจ Kim DeFi Daddy นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ร่วมก่อตั้ง Firo พร้อมนักลงทุนและวิทยากรด้านการลงทุนชื่อดังของไทย, นายซีเค เจิง (CK Cheong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟาสต์เวิร์ค เทคโนโลยีส์ จำกัด (Fastwork) แพลตฟอร์มรวมฟรีแลนซ์ชื่อดัง, HashKey Capital ผู้ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในฮ่องกง, หน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA), ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้ใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. เช่น บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด ตลอดจนผู้ก่อตั้งโปรเจกต์บล็อกเชนระดับโลก อาทิ Sandbox, MEMELAND & 9GAG, Coin98, Hashed, Trust Wallet, Sui Foundation และ Aura Network รวมไปถึงวิทยากรชาวต่างชาติอีกมากมายที่จะมาให้ข้อมูลเชิงลึกอัพเดทในงานนี้เป็นที่แรก
นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาจากตัวแทนผู้บริหารของผู้สนับสนุนหลักในการจัดงานนี้ ได้แก่ คุณธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Venture Director บริษัท กสิกร เอ็กซ์ จำกัด (KX) คุณดีพร้อม สมเกียรติเจริญ Development Lead บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) คุณอดิรุจ นิธิเลิศวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้ง 100X คุณวิมลพรรณ วิบูลย์มา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารองค์กรและการตลาด บริษัท บิทาซซ่า จำกัด ได้มาร่วมเสวนาในหัวข้อ “Blockchain Vision Forward เปิดมุมมองอนาคตโลกบล็อกเชน” โดยมีสาระสำคัญว่า
“ก่อนหน้านี้เทคโนโลยีบล็อกเชนถูกพูดถึงมากมาย เพราะอาจเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายใหม่ในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดและพัฒนาระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ในประเทศไทยเลยด้วยซ้ำ แต่การที่จะเกิด Mass Adoption (การนำมาใช้งานโดยทั่วไป) อยู่ที่ความง่ายของการใช้งาน ผู้ให้บริการที่ครอบคลุม รวมไปถึงระบบหลังบ้านที่รองรับธุรกรรมมหาศาล สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ไม่สามารถขาดอันใดอันหนึ่งได้ แน่นอนว่าผู้ประกอบการและสถาบันการเงินอันดับต้น ๆ ในประเทศไทยต่างเริ่มให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งานอย่างจริงจัง ซึ่งงาน Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 ถือเป็นศูนย์รวมความรู้ และคอนเน็กชั่นด้านบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย”
งานในครั้งนี้จะอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาสุดเข้มข้นกับ 3 เวที ตลอดทั้ง 2 วัน ได้แก่ เวทีใหญ่ “เจเนซิส เสตจ” (Genesis Stage) เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นศึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมผู้ดำเนินรายการมืออาชีพที่จะช่วยย่อยเนื้อหาให้เข้าใจง่าย ตลอดจนอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีที่สำคัญให้คุณได้รู้ก่อนใคร เวทีที่ 2 “แอดวานซ์ เสตจ” (Advance Stage) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับความรู้ในการลงทุนหรือพัฒนาโปรเจกต์ เนื้อหาเจาะลึกจากแบรนด์และผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความเข้าใจ ในเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีเป็นอย่างดี และเวทีที่ 3 “เวทีกิจกรรม” (Activities Stage) พบกับกิจกรรมแจกของรางวัล สุดพิเศษพร้อมโปรโมชั่นจากบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งไทยและต่างชาติ
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถซื้อบัตรได้ที่ www.eventpop.me/e/15676/blockchainth2023 บัตรแบบมาตรฐาน (General) ราคา 299 บาท สามารถเข้าร่วม งานได้ 2 วัน พร้อมรับของที่ระลึกและสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลจากกิจกรรม Quest Hunting พร้อมรับ NFT ซึ่งพัฒนาโดย SIX Network และบัตรนักเรียน-นักศึกษาราคาพิเศษ 150 บาท
พิเศษสุด!! กับบัตร VIP ราคา 10,000 บาท รับสิทธิประโยชน์มากมาย ได้แก่ สิทธิ์เข้าร่วมเวิร์คช็อปอย่างไม่จำกัด สิทธิ์เข้าใช้ VIP Lounge ภายในงานพร้อมอาหารเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังสามารถเข้าร่วม Welcome Dinner และ Exclusive Networking Party ส่วนตัวกับนักลงทุนและนักพัฒนาโปรเจกต์แนวหน้า พร้อมโอกาสได้พบกับผู้นำด้านบล็อกเชนจากนานาประเทศ
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานสามารถซื้อบัตรเข้าเวิร์กช็อปพิเศษ 'เรียนลัดฉบับเจาะลึก' เพิ่มเติมได้ไม่จำกัดหัวข้อ ในราคา 200 บาท อาทิ “เทคนิคการจัดพอร์ตคริปโทฯ ให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด ในทุกช่วงเวลาตลาด”, “เจาะลึกการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อการลงทุนคริปโทฯ แบบฉบับมือโปร” และ หัวข้ออื่น ๆ อีกมากมาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.blockchain-th.com , www.facebook.com/blockchainthailandevent, https://twitter.com/BGTHOfficial