รีเซต

สสว. จี้ กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับเทียม-ผลไม้สดและแปรรูป-ข้าวและธัญพืช รับมือสงครามรัสเซีย-ยูเครน

สสว. จี้ กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับเทียม-ผลไม้สดและแปรรูป-ข้าวและธัญพืช รับมือสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ข่าวสด
16 มีนาคม 2565 ( 16:36 )
85
สสว. จี้ กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับเทียม-ผลไม้สดและแปรรูป-ข้าวและธัญพืช รับมือสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ข่าววันนี้ นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงรายงานสถานการณ์และวิเคราะห์เตือนภัยเอสเอ็มอี เกี่ยวกับการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน พบว่า ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์และราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นส่งผลต่อต้นทุนการประกอบการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย รวมถึงการค้าการลงทุน เพราะรัสเซียเป็นประตูการค้าไปสู่กลุ่มประเทศในภูมิภาคยูเรเซีย และยังเป็นตลาดหลักของการท่องเที่ยวไทยที่เดินทางเข้าไทยถึง 1,481,837 คน สร้างรายได้จากท่องเที่ยว 102,895.03 ล้านบาทในปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด-19

 

“หากสถานการณ์สู้รบมีความยืดเยื้อ อาจกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศข้างเคียง ได้แก่ โปแลนด์ เบลารุส ฮังการี มอลโดวา สโลวาเกีย และโรมาเนีย ที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีมูลค่าส่งออกรวม 101.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ส่งออกและนำเข้าสินค้าจากรัสเซียและยูเครนจะต้องเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ทีเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถรับมือและแก้ปัญหาได้ทันการณ์”

 

โดยปี 2564 ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี มีการส่งออกสินค้าไปรัสเซียอันดับที่ 29 และส่งออกไปยูเครนเป็นอันดับที่ 70 สินค้าส่งออก ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับเทียม ผลไม้สดและแปรรูป ข้าวและธัญพืช โทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสาร ฯลฯ แม้ภาพรวมจะยังไม่เห็นผลกระทบทางตรงที่ชัดเจนนัก นอกเหนือจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 565 ราย ที่มีการส่งออกไปยัง 2 ประเทศ ต้องเตรียมการรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาจากภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น

 

ในส่วนที่ไทยส่งออกสินค้าไปยูเครนมีมูลค่า 134.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ในจำนวนนี้เป็นการค้าของเอสเอ็มอี 123 ราย มูลค่า 15.10 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 30.6% สินค้าส่งออกหลักของเอสเอ็มอี ได้แก่ ผักและผลไม้แปรรูป ข้าวและธัญพืช อัญมณีและเครื่องประดับเทียม ฯลฯ ซึ่งไทยนำเข้าสินค้าจากยูเครน มูลค่า 251.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เหล็กกล้า กากและเศษที่เหลือจากอุตสาหกรรมอาหาร ไขมันและน้ำมันจากสัตว์และพืช ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

 

สำหรับสินค้าที่ไทยส่งออกไปรัสเซียมีมูลค่า 1,028 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเอสเอ็มอี 442 ราย มูลค่า 146.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 83.2% ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญของเอสเอ็มอี ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับเทียม ผลไม้สดและแปรรูป โทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสาร ฯลฯ ส่วนไทยนำเข้าสินค้าจากรัสเซียมูลค่า 1,752 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบ เหล็กกล้า ปุ๋ย อลูมิเนียม และยานอวกาศและส่วนประกอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง