เซ็นทรัล รีเทล ทุ่ม 4.7 หมื่นล้าน ลงทุนต่อทั้งไทย-เวียดนาม l การตลาดเงินล้าน

มุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อ คุณสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จากความไม่แน่นอนทางด้านการค้า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ สงครามที่เกิดขึ้น และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
โดยเศรษฐกิจไม่เติบโตเหมือนเดิม อีกทั้งกำลังซื้อชะลอตัวลง ซึ่งเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป (เมนสตรีม) มีการรัดเข็มขัดมากขึ้น ส่วนสงครามความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น
อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลจะมีมาตรการออกมาเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และกำลังซื้อ ถือเป็นเรื่องดี และพร้อมสนับสนุน และอยากเห็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น อีกด้วย
ขณะที่ ซีอาร์ซี เอง จากการที่ได้ทำความเข้าใจฐานข้อมูลลูกค้าในไทย ที่มีมากกว่า 26 ล้านราย ทำให้สามารถเข้าใจลูกค้าและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงสามารถการจัดทำโปรโมชันเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้นได้
คุณสุทธิสาร กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้นำค้าปลีกและค้าส่ง มองปัจจัยความท้าทายดังกล่าวเป็นโอกาส ในการสร้างการเติบโตในระยะต่อไป โดยวางแผนระยะ 3 ปี ระหว่างปี 2568 ถึง 2570 จะใช้งบลงทุนราว 45,000-47,000 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจ ซึ่งจะเน้นการขยายสาขาขนาดกลางและใหญ่ ทั้งในไทย และเวียดนาม รวมประมาณ 55-69 สาขา
เช่น ห้างสรรพสินค้า จะเปิดเพิ่มอีก 1-2 แห่ง ส่วนกลุ่มอาหาร (ท็อปส์) เพิ่มอีก 25-30 สาขา, กลุ่มฮาร์ดไลน์ เช่น ไทยวัสดุ , โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น
นอกจากนี้ จะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มเมนสตรีม (คือกลุ่มลูกค้าระดับกลาง หรือกลุ่มแมส) ให้มากขึ้น จากปัจจุบัน มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งอยู่แล้วในกลุ่ม ลักชัวรี และ กลุ่มกำลังซื้อสูง โดยจะให้ความสำคัญกับการเข้าใจ และเข้าถึงลูกค้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น มุ่งตอบสนองความค้องการของลูกค้าทั้งในช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์
ตลอดจนการนำเทคโนโลยี เอไอ เข้ามาเสริมแกร่งให้กับการทำงานในทุกมิติขององค์กร ทั้งในแง่การเสริมศักยภาพให้บุคลากร และเพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
อีกทั้ง จะมุ่งสร้างความร่วมมืออย่างเข้มข้นกับธุรกิจทั้งหมดในเครือเซ็นทรัล รีเทล และเซ็นทรัล กรุ๊ป ทั้งในแง่การเพิ่มยอดขาย และการผลักดันการทำงานร่วมกัน และในท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน บริษัทฯ จะเน้นการบริหารการเงินอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสูง โดยในระยะ 3 ปีข้างหน้า ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ และ EBITDA (อีบิตดา) ไว้ที่ร้อยละ 5 ต่อปี
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
