Huawei กับสงครามการค้าในตลาดสมาร์ทโฟน – ควรสู้หรือถอย ?
ต้องยอมรับว่าในปี 2020 เป็นปีที่ดุเดือดสำหรับสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ Huawei อันเนื่องมาจากการประกาศขึ้นบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา การผลิตสินค้าของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งประเทศจีนจึงเกิดความล่าช้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
ที่มาของภาพ https://www.fool.com/investing/2020/10/01/tsmcs-biggest-chinese-rival-gets-slammed-by-us-san/
แม้ Huawei จะพยายามฝ่าฟันอุปสรรคนี้ในตลาดสมาร์ทโฟน ด้วยการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากระบบปฏิบัติการ Android ของ Google เพื่อสร้าง Ecosystem ของตนเอง ด้วยบริการที่เรียกว่า Huawei Mobile Service (HMS) ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับ Google Mobile Service (GMS) ได้ เพราะผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android ส่วนใหญ่จะคุ้นชินกับ GMS อยู่แล้ว หากต้องเปลี่ยนไปใช้ HMS สิ่งที่เคยใช้มาใน GMS จะนำมาใช้ร่วมกันไม่ได้อีก
ที่มาของภาพ https://www.forbes.com/sites/davidphelan/2019/08/10/move-over-android-huaweis-harmony-os-is-plan-b-but-could-be-implemented-in-days-if-needed/#6ce315ee1f57
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแอปพลิเคชันพื้นฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Gmail, Google Maps และอื่น ๆ ที่จะพบได้เฉพาะสมาร์ทโฟน Android ระบบ GMS เท่านั้น และแน่นอนว่าหากคุณใช้สมาร์ทโฟนของ Huawei ก็จะไม่สามารถใช้แอปพลิเคชันเหล่านั้นได้เลย ผู้ใช้งานนอกประเทศจีนจึงต้องปรับตัวอย่างมาก ประกอบกับแอปพลิเคชันที่ยังไม่ตอบโจทย์เท่ากับบริการจาก GMS ผู้ใช้บางรายถึงกับกล่าวว่าการซื้อสมาร์ทโฟนของ Huawei ที่ไม่มี GSM คงไม่ต่างอะไรกับที่ทับกระดาษราคาแพง
ที่มาของภาพ https://www.axios.com/huawei-exec-wants-dialogue-china-trade-war-security-f58fce34-e3da-46d0-b4d8-9a2a1124ff76.html
สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นถัดไปอย่าง Huawei Mate 40 ก็มีข่าวว่าทางผู้ผลิตอาจวางจำหน่ายเพียงแค่ 50 ล้านเครื่อง เนื่องจากชิปประมวล Kirin 9000 มีปริมาณจำกัด จึงไม่สามารถผลิตสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมออกมาได้มากเท่ากับปีก่อน (200 ล้านเครื่อง) ทั้งนี้เป็นเพราะชิปประมวลผล Kirin ส่วนใหญ่ ถูกผลิตโดยบริษัท TSMC ประเทศไต้หวัน แต่กระบวนการและเทคโนโลยีการผลิตอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐอเมริกา จึงถูกสั่งห้ามมิให้ผลิตชิปให้กับ Huawei ด้วย
ที่มาของภาพ https://www.forbes.com/sites/zakdoffman/2020/10/04/will-huawei-replace-apple-iphone-and-samsung-galaxy-after-trump-china-ban/#1cbd65c7d9b4
ถึงกระนั้น Huawei ก็ยังไม่สิ้นหวัง เพราะยังเหลือผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในประเทศจีนอย่าง SMIC ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ขออนุญาตผลิตชิปประมวลผลให้กับ Huawei ต่อไป (แม้ SMIC จะเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในประเทศจีน แต่เทคโนโลยีบางส่วนยังอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับ TSMC) แม้ว่าเทคโนโลยีการผลิตของ SMIC จะล้าหลังกว่า TSMC ไปมาก แต่มันก็เพียงพอที่จะให้ Huawei ทำตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางได้อยู่นั่นเอง
ที่มาของภาพ https://www.techpowerup.com/268093/chinas-smic-looking-for-usd-2-8-billion-funding-round-via-shanghai
ทางด้านของ Huawei นายกัว ปิง (Guo Ping) ประธานบริษัท ได้ออกมาประกาศให้กำลังใจแก่เหล่าพนักงาน ให้สู้ต่อไปในสงครามการค้านี้ อดทนรอด้วยความหวัง เพื่อกลับมาเป็นผู้นำในตลาดเทคโนโลยีอีกครั้ง
ที่มาของภาพ https://www.businessinsider.com/huawei-chairman-guo-ping-says-5g-will-be-new-electricity-2019-11
ไม่รู้ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีนจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ปีนี้ถือว่า Huawei ต้องรับศึกหนักในการต่อสู้กับตลาดสมาร์ทโฟน ด้วยระบบปฏิบัติการที่ยังอยู่ในระยะตั้งไข่ ประกอบกับภาวะขาดแคลนฮาร์ดแวร์ ซึ่งเป็นส่วนขับเคลื่อนสำคัญในการผลิตสินค้า เพราะฉะนั้นยังคงต้องติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Forbes
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline