บอลไทย เตรียมรื้อแผนเตะแบบปิดยื่นศบค.พิจารณาให้ลีกอาชีพเดินหน้า
บอลไทย ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ระบาดหนักกระจายไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย ทำให้ฟุตบอลลีกอาชีพต้องประกาศพักแข่ง ล่าเตรียมเสนอให้แข่งแบบปิดอีกครั้ง
บอลไทย - เมื่อ 6 ม.ค. “แชมป์”นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานบริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เป็นประธานการประชุมฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ หลังจากไทยลีกประกาศเลื่อนการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพในเดือนม.ค.ออกไปจนถึงสิ้นเดือน เนื่องจากสถานการณ์ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19
นายกรวีร์ กล่าวว่า “จากการพูดคุยกับสโมสรสมาชิกในทุกลีก ซึ่งไทยลีก 1 และไทยลีก 2 จะยังทำการแข่งขันต่อไป ส่วนไทยลีก 3 ได้ทำการตัดจบและได้ตัวแทนแต่ละโซน 2 ทีมเรียบร้อยประกอบด้วย โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุดร ยูไนเต็ด กับ เมืองเลย ยูไนเต็ด โซนตะวันออก ปลวกแดง ยูไนเต็ด กับ ฉะเชิงเทรา ไฮ-เทค เอฟซี โซนตะวันตก เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด กับ ราชประชา โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล นอร์ทกรุงเทพ เอฟซี กับ บางกอก เอฟซี และ โซนภาคใต้ สงขลา เอฟซี กับ กระบี่ เอฟซี โดยทั้งหมดจะไปเล่นรอบแชมเปียนส์ลีก เพื่อหาตัวแทนขึ้นสู่ไทยลีก 2”
“การที่เราตัดจบไทยลีก 3 เนื่องจากเป็นลีกที่มีผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนไทยลีก 1 และ 2 นั้นมีเงื่อนไขมากกว่า โดยเฉพาะสัญญาที่มีอยู่กับผู้สนับสนุน ดังนั้นถึงตอนนี้เราจะยังคงเดินหน้าจัดการแข่งขันตามปกติไม่ตัดจบหากไม่ถึงที่สุดจริงๆ”
“เบื้องต้นเรากำลังเตรียมร่างแผนการทำงานในการที่จะกลับมาแข่งแบบปิด เพราะถ้าจำกันได้เราเคยทำแผนนี้เสนอศบค. และได้รับการอนุมัติให้จัดแข่งแบบปิดได้ จากนั้นมีการเพิ่มแฟนบอลเข้าชมได้จาก 25 เปอร์เซ็นต์ มาเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญกำลังจะได้รับการอนุมัติให้แฟนบอลเข้าชมได้สูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ตามความจุของแต่ละสนาม แต่สุดท้ายเกิดการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นก่อน”
“เราเตรียมแผนการไว้ 2 แนวทาง อย่างแรกคือที่บอกไปนั่นคือการเตรียมแผนงานเสนอกับศบค. เพื่อแข่งแบบปิด และอย่างที่ 2 คือเราจะขอดูแผนงานของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ที่ใช้ในการบริหารจัดการฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2020 ที่ใช้สนามกลางว่าต้องปฏิบัติอย่างไรเอาไปยื่นเสนอกับศบค. เพิ่มเติม แต่เรื่องการใช้สนามกลางกับการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพของไทยทั้ง 2 ลีก นับร้อยแมตช์อาจจะเป็นเรื่องยาก ทั้งเรื่องที่พักของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่แต่ละทีม สถานที่กักตัว สนามฝึกซ้อม รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่สโมสรต้องแบกรับ คงต้องมาพูดคุยกันอีกครั้งว่าสุดท้ายแล้วจะเลือกแบบไหน”