DHOUSEดันงบบวก แรงซื้อที่อยู่อาศัยฟื้น
ทันหุ้น – DHOUSE เร่งปั๊มผลงานปีนี้พลิกกำไร จาก 6 เดือนขาดทุน 2.40 ล้านบาท เชื่อคลายล็อกดาวน์หนุนกำลังซื้อไหลกลับ โชว์โครงการพร้อมขาย มูลค่า 803.63 ล้านบาท แถมมียอดแบ็กล็อกรอโอน 25 ล้านบาท จ่อบุ๊กช่วงที่เหลือทั้งหมด
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า บริษัทคาดทิศทางผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2564 จะดีกว่าครึ่งปีแรก หลังภาครัฐประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจังหวัดมหาสารคามที่ผ่านมาเป็นพื้นที่สีแดง ลูกค้าไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่หลังประกาศผ่อนคลายมาตรการ เชื่อว่าลูกค้าจะเลือกดูที่อยู่อาศัยมากขึ้น คาดพฤติกรรมผู้บริโภคจะซื้อและทำการโอนทันที
***ดันผลงานพลิกบวก
ขณะเดียวกัน บริษัทคาดแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 2564 จะกลับมาเทิร์นอะราวด์ หรือพลิกเป็นบวกได้ไม่ยาก จากครึ่งปีแรกขาดทุนอยู่ 2.40 ล้านบาท หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และอีกประเด็นหนึ่งที่น่าติดตามคือมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ คาดจะเป็นแรงหนุนให้ผู้บริโภคกล้าใช้จ่าย หรือตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้บริษัทคาดจะรับรู้รายได้เวนคืนที่ดิน มูลค่า 8 ล้านบาท ซึ่งกระบวนการน่าจะแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/2564 หากทำได้ตามแผนคาดจะหนุนผลประกอบการปีนี้ให้กลับมาเป็นบวกได้
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการเปิดขาย 3 โครงการ มูลค่ารวม 803.63 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเดอะแกรนด์ คาแนล โครงการแกรนด์ บิซ และโครงการพฤกภิรมย์ บริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) อยู่ที่ 25 ล้านบาท คาดจะรับรู้ยอดโอนครึ่งปีหลัง 2564 ทั้งหมด ทั้งนี้ Backlog ของบริษัทจะมีจำนวนไม่มาก โดยจะอยู่ที่ระดับ 20-40 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าโอนกรรมสิทธิ์เร็ว ทำให้ตัวเลข Backlog มีจำนวนไม่มาก
** โครงการช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนช่วงที่เหลือของปี 2564 บริษัทจะดำเนินงานโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภท Mixed-Use พื้นที่ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รวมถึงธุรกิจรีเทล ร้านค้าปลีก ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหาร บนเนื้อที่ 12 ไร่ 3 งาน 52 ตารางวา ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ สถานีบริการน้ำมัน และร้านค้าปลีก ภายใต้แบรนด์ ปตท. และ UPark Street อาคาร Street Food ขนาด 1,990 ตารางเมตร ประกอบด้วย ร้านขายอาหาร 86 ร้าน และลานโล่งสำหรับวางเต็นท์ ขายสินค้า ขนาด 7,010 ตารางเมตร ประกอบด้วย ร้านอาหาร 26 ร้าน และ ร้านค้า 132 ร้าน ขณะนี้ได้รับการอนุญาตก่อสร้างแล้ว และคาดว่าพร้อมทยอยให้บริการในช่วงไตรมาส 1/2565
บริษัทประเมินภาพรวมธุรกิจรีเทล ร้านค้าปลีก ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหาร ในอนาคตจะสนับสนุนให้บริษัทมีกำไรเฉลี่ยต่อปีประมาณ 6 ล้านบาท และจะหนุนให้บริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการ River Condo คอนโดมีเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น จำนวน 2 อาคารรวม 336 ยูนิต พื้นที่โครงการ 3 ไร่ คาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาส 2/2565