“ทรัมป์” ยังไม่ขึ้นภาษีทันที จับตา UAL-NFLX แจ้งงบ
#หุ้นสหรัฐ #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัส
ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเช้านี้ หลัง Trump ประกาศจะใช้อำนาจประธานาธิบดีลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติในวันแรกที่เข้าดำรงตำแหน่ง ด้วยการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน และตั้งโรงกลั่นน้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันหลังกลุ่มกบฏฮูตีประกาศว่าจะจำกัดการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง โดยจะจำกัดการโจมตี เรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลเท่านั้น และจะยกเลิกการโจมตีหากอิสราเอลปฏิบัติตามข้อตกลงหลุดยิงในฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์ตามข้อตกลง
สำหรับนโยบายต่างประเทศ Trump ยังคงยืนกรานการเก็บภาษีอากรจากต่างประเทศเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้แก่ชาวอเมริกัน อย่างไรก็ดี Trump ได้แสดงความเห็นว่ายังไม่รีบเร่งลงนามการปรับขึ้นกำแพงภาษีทันทีตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ โดยจะให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบ และศึกษาผลกระทบที่ชัดเจนก่อนจะเริ่มปรับขึ้นภาษีนำเข้าต่อไป
ด้าน Mao Ning โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ เพื่อขจัดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ โดยระบุว่า "ความร่วมมือระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ ขณะที่การเผชิญหน้ากันรังแต่จะสร้างความเสียหายต่อทั้งสองฝ่าย สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนจากประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ"
นอกจากนี้ Trump ได้ประกาศนโยบายอื่นๆ ที่จะดำเนินการหลังเข้ารับตำแหน่ง อาทิ
1) ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติทางชายแดนด้านใต้สหรัฐฯ และส่งกำลังทหารเข้าปกป้องชายแดนเพื่อสกัดการลักลอบเข้าเมืองจากเม็กซิโก และเนรเทศอาชญากรต่างชาติกลับประเทศ
2) ถอนตัวจากความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งเป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
3) ยกเลิกนโยบายส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า
4) เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา
5) ยึดคลองปานามากลับคืนสู่สหรัฐฯ และ
6) ส่งมนุษย์อวกาศไปปักธงชาติสหรัฐฯ บนดาวอังคาร
.
ด้านราคา Bitcoin ผันผวนและปรับตัวร่วงลงวานนี้ หลังผิดหวังที่ Trump ไม่ได้กล่าวถึงนโยบายการสนับสนุนอุตสาหกรรม Cryptocurrency ในระหว่างการแถลงนโยบายในพิธีสาบานตน ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หยุดทำการวานนี้ เนื่องในวันมาร์ตินลูเธอร์คิงจูเนียร์
ฝ่ายกลยุทธ์ฯ มองว่าประเด็นที่ Trump เลื่อนการตัดสินใจปรับขึ้นภาษีนำเข้าในทันทีออกไป พร้อมกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะออกมาดีจะเป็นสิ่งที่ช่วยหนุน Sentiment ต่อตลาดในระยะสั้น โดยเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และแนะนำเก็งกำไรโดยมองกรอบดัชนี S&P500 ในช่วง 5,700 - 6,100 จุด
วันนี้ยุโรปจะมีรายงานตัวเลขดัชนี ZEW Survey Expectations (ม.ค.) และสหรัฐฯ จะมีรายงาน Philadelphia Fed Non-Manufacturing Activity (ม.ค.) นอกจากนี้ ติดตามรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ ในวันนี้ อาทิUnited Airlines โดยล่าสุด ตลาด (อิงจากBloomberg consensus) คาดว่าบริษัทจะรายงานกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น 52% YoY จาก -9%ไตรมาสก่อน และราคาปัจจุบันมี Upside +18.6%ขณะที่ประเมินว่า Netflix จะเผยการเติบโตของกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งในระดับสองหลักต่อเนื่อง (+98% YoY vs. ไตรมาสก่อน +45%) และราคาปัจจุบันมี Upside +8.5% โดยฝ่ายกลยุทธ์ฯ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” จากผลประกอบการที่คาดว่าจะออกมาดี (UAL US แนวรับ $101/90 แนวต้าน $114/120 Stoploss $88, NFLX US แนวรับ $807/764 แนวต้าน $941/987 Stoploss $749)
Netflix (NFLX US) ตลาดคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4/2024 เติบโต 15%จากสมาชิกแบบชำระเงินที่เพิ่มขึ้น
- Netflix เตรียมประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2024ในวันนี้ (21 ม.ค.) โดยตลาดคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้น 15% YoY เป็น $1.01 หมื่นล้าน และอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ 22% เพิ่มขึ้น 500 bps YoY โดยการเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากสมาชิกแบบชำระเงินเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 15%
- ความสำเร็จของ Netflix ในไตรมาส 3ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ด้วยรายได้เพิ่มขึ้น 15% YoY เป็น $9.83 พันล้าน กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 52% สู่ $2.91 พันล้าน และกระแสเงินสดอิสระเพิ่มขึ้นเป็น $2.19 พันล้าน
- การเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเด่นชัดที่สุดที่ 19% YoY โดยสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้น 16% และยุโรป, ตะวันออกกลาง, และแอฟริกาเพิ่มขึ้น 16% เช่นกัน แม้ว่าสมาชิกในละตินอเมริกาลดลงเล็กน้อยจากการปรับราคา แต่รายได้ยังเติบโต 9%
- รายได้จากโฆษณาเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสมาชิกแบบมีโฆษณาเพิ่มขึ้น 35% QoQ แม้จะเผชิญความท้าทายในการสร้างรายได้ แต่ Netflix มีแผนขยายกิจกรรมด้านโฆษณาในอนาคตเพื่อเสริมการเติบโตระยะยาว
- สำหรับปี 2024 Netflix ตลาดคาดการณ์การเติบโตของรายได้ 14%-15% โดยปรับเป้าหมายอัตรากำไรจากการดำเนินงานเป็น 27% และกระแสเงินสดอิสระอยู่ในช่วง $6.0-$6.5 พันล้าน ขณะที่ในปี 2025 คาดการเติบโตของรายได้ 11%-13% และอัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 28%