รีเซต

ที่หนึ่งของอาเซียน! อินโดนีเซีย ติดโควิดทะลุแสนคน

ที่หนึ่งของอาเซียน! อินโดนีเซีย ติดโควิดทะลุแสนคน
TNN ช่อง16
28 กรกฎาคม 2563 ( 11:21 )
107
ที่หนึ่งของอาเซียน! อินโดนีเซีย ติดโควิดทะลุแสนคน

วันนี้ (28 ก.ค.63) อินโดนีเซีย ชาติที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก กำลังเข้าสู่จุดวิกฤตของการระบาดของโควิด-19 เมื่อกระทรวงสาธารณสุขรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันจันทร์เพิ่มอีก 1,525 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมไปอยู่ที่ 100,303 ราย ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4,838 ราย

อินโดนีเซีย มี 34 จังหวัด และพบผู้ติดเชื้อในทุกจังหวัด ขณะที่ผู้ติดเชื้อราว 40% อยู้ที่จังหวัดชวาตะวันออกและกรุงจาการ์ตา เมืองหลวง ซึ่งทั้งสองที่เป็นศูนย์กลางการระบาดของประเทศ 


ขณะที่ สมาคมนักข่าวโทรทัศน์ของอินโดนีเซีย ยืนยันว่า มีนักข่าวแล้วอย่างน้อย 96 คนที่ติดโควิด 19 และเสียชีวิตไปแล้ว 3 ราย ซึ่งสมาคมได้ตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางยับยั้งการแพร่ระบาดในหมู่คนทำงานสื่อ เช่น จ่ายค่าตรวจหาเชื้อให้ และเรียกร้องผู้บริหารองค์การสื่อให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนทำงาน เพราะมีรายงานว่าบริษัทสื่อยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากพอ

ด้าน สมาคมแพทย์อินโดฯ แสดงความกังวลว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์กำลังพุ่งขึ้น โดยพบว่า ทุกๆ การเสียชีวิต 100 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 6 ราย และตอนนี้มียอดผู้เสียชีวิตที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์มากกว่า 70 รายแล้ว


ทั้งนี้ คณะทำงานรับมือโควิด-19 ของอินโดนีเซีย เคยคาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนว่า อินโดนีเซียจะถึงจุดสูงสุดของการระบาดผู้ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน แต่ตัวเลขดังกล่าวถือว่าคลาดเคลื่อนเพราะเพิ่งผ่านจำนวนหนึ่งแสนรายในวันนี้ ทำให้นักระบาดวิทยาระบุว่า ยังคาดการณ์ได้ยากว่าจุดสูงสุดของการระบาดจะเกิดขึ้นเมื่อไร

นายอันดู ริโอโน นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อของอินเดียกระโดดจาก 57,770 ราย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม มาเป็น 100,303 ราย ภายในเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ

ขณะที่ ศูนย์วิจัย MIT Operations คาดการณ์ว่า อินโดนีเซียจะมีผู้ติดเชื้อสะสมถึง 400,000 ราย ภายในวันที่ 15 ตุลาคม


สำหรับปัจจัยที่เป็นเหตุให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นนั้น มาจาก

1.การ์ดตก

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นมีสาเหตุมาจากการผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม โดยกรุงจาการ์ตาได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ในที่เมืองสุราบายา เมืองเอกของจังหวัดชวาตะวันออก ยกเลิกมาตรการคุมเข้มทั้งหมด ในวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญมองว่า “เร็วเกินไป”

นายริโอโน ระบุว่า รัฐบาลควรกลับมาใช้มาตรการเข้มโดยทันทีที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กำลังพุ่ง ควรสั่งปิดสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่สาธารณะต่างๆ และห้ามผู้คนเดินทาง แต่รัฐบาลกลับไม่ได้มีมาตรการใดๆแทรกแซงเพื่อชะลอการแพร่เชื้อ


2.ตรวจหาเชื้อน้อย

ด้าน ดิกกี้ บูดิแมน นักระบาดวิทยา ระบุว่า เป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยากว่า การระบาดในอินโดนีเซียจะเข้าสู่งจุดสูงสุดเมื่อไหร่ เพราะมีการตรวจหาเชื้อที่ต่ำมากในแต่ละวัน ทำใหตัวเลขในตอนนี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง และอาจมีผู้ติดเชื้อมากกว่าตัวเลขที่ทางการรายงานถึงสิบเท่าด้วยซ้ำไป

นอกจากนี้ จนถึงตอนนี้ อินโดนีเซีย มีการตรวจหาเชื้อประชากรเพียง 800,000 คนเท่านั้น หรือ 0.29% ของประชากร 273 ล้านคน

ขณะที่การตรวจหาเชื้อเกิดขึ้นราว 13,000 คนต่อวัน ซึ่งมีผู้ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกราว 13 – 15% ของผู้เข้ารับการตรวจทั้งหมด ถือว่าสูงกว่ามาตรการที่กำหนดไว้ขององค์การอนามัยโลกมาก ซึ่งอยู่ 5% 


3.ท่าทีของรัฐบาล

รัฐบาลของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ได้ยกเลิกการแลถงสถานการณ์โควิดรายวันไป ทั้งๆที่เป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนควรได้รับทราบ

ที่ผ่านมานายโจโกวีนั้นถูกวิจารณ์เรื่องการตอบสนองต่อวิกฤตการระบาดที่ค่อนข้างช้า และเคยแสดงความเห็นในช่วงแรกของการระบาดว่า กลัวว่าการให้ข้อมูลเรื่องไวรัสจะทำให้ประชาชนแตกตื่น

ด้าน สมาคมแพทย์แห่งอินโดนีเซีย ระบุว่า อินโดนีเซียมาถึงจุดที่มีผู้ติดเชื้อเกินแสนรายแล้ว รัฐบาลจำเป็นต้องรับมือกับวิกฤตอย่างจริงจังกว่านี้ เพราะประชาชนมีความระมัดระวังน้อยลงในช่วงไม่นานมานี้ เพราะรัฐบาลส่งเสริมเรื่องวิถึชีวิตแบบนิวนอร์มอล ที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและคิดว่า สถานการณ์นั้นควบคุมได้แล้ว

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง