ฝ่ายค้าน เตรียมเปิดซักฟอกรัฐบาล "เศรษฐา"

ที่อาคารรัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการ ประสานงาน พรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงการเตรียมการทำงานหลังจากสภาเปิดสมัยประชุมว่า ในการประชุม สภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ จะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมาย ที่ผ่านคณะรัฐมนตรี(ครม.)มาเป็นเรื่องด่วน โดยเป็นร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับกระทรวง การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม 4 ฉบับ ซึ่งคงไม่มีการอภิปรายกันมากและคงรับหลักการร่วมกันทั้งสภาฯ และจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายที่สว.แก้กลับมา ว่า ทางสภาจะยืนยันร่างของสส.หรือ จะเห็นด้วยกับการแก้ไขของสว. และ คาดว่าน่าจะมีการพิจารณากฎหมาย ที่สส.ได้เสนอค้างไว้ในสมัยประชุมที่ผ่านมาเช่นกฎหมายประมวลที่ดิน และพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง 

สำหรับแผนการทำงานของฝ่ายค้านตั้งแต่เปิดประชุมสภานั้น พรรคก้าวไกล ยืนยันที่จะยึดมั่นในจุดเดิมคือเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก มีข้อเสนอต่างๆตลอดเวลาและไม่ได้ทำงานฝ่ายค้านเพียงเพื่อที่จะต้องล้มรัฐบาลเท่านั้น แต่จะนำเสนอประเด็นต่างๆที่รัฐบาลจะสามารถหยิบยกไปใช้ได้

ส่วนการทำงานก็คงเข้มข้นขึ้น ในช่วง 1 ปีแรกหลายๆอย่างรัฐบาลต้องใช้เวลาปรับตัว เช่นงบประมาณที่เข้ามาปีแรก อาจจะมีขรุขระบ้าง เพราะมีการค้างมาจากงบปีเก่าที่รัฐบาลเดิมค้างเอาไว้ 

"แต่ปีนี้ทั้งงบประมาณและนโยบายต่างๆเป็นการขับเคลื่อน โดยรัฐบาลชุดนี้แบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นการตรวจสอบจะเข้มข้นกว่าเดิมเพราะความคาดหวัง ของประชาชน และฝ่ายค้านต่อรัฐบาลจะเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม เพราะสิ่งที่สัญญาไว้ คุณมีอำนาจเต็มมีงบประมาณเต็มแล้วจะขับเคลื่อนด้วยจริงหรือไม่ ดังนั้นเราจะทำงานอย่างดีกว่าเดิมเข้มข้นกว่าเดิมแน่นอน" นายปกรณ์วุฒิกล่าว

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีแน่นอนแต่รอลุ้นว่าจะต้องเป็นช่วงเวลาไหน อย่างที่บอกว่าพอมันเข้มข้นขึ้นเราก็ต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้นขึ้น

สำหรับการวางแผนงานร่วมกับพรรค ประชาธิปัตย์และพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง นายชัยธวัช ตุลลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ได้มีการพูดคุยกับแกนนำของพรรคฝ่ายค้านทุกพรรคทุกเดือนอยู่แล้ว ล่าสุดทางผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนก็ได้ลงพื้นที่ไปจังหวัดอุดรธานีพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ส่งนายร่มธรรม ขำนุรักษ์ไปด้วย ก็คุยกันปกติดีและในพ.ร.บ.งบที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมหน้าพร้อมตา ทำหน้าที่ฝ่ายค้านร่วมกันอย่างเหนียวแน่น และก็เชื่อว่าประชาธิปัตย์ก็พร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าทางพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเปิดอภิปราย

นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงว่าที่สว.ชุดใหม่ 200 คนว่า ถ้ามีการรับรองแล้วเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ก็คงพร้อมที่จะทำงานร่วมกัน และคงจะต้องดูท่าทีอีกครั้งว่าเมื่อมีร่างกฎหมายต่างๆไปถึงสว. ท่าทีของสว.ชุดนี้แนวคิดของสว.ชุดนี้ โดยรวมจะเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็คิดว่าไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการได้มาซึ่งสว. ที่ซับซ้อนขนาดนี้ หลายๆสื่อก็มองว่าจะมีคนสามารถแฮกระบบได้ ด้วยการใช้ทรัพยากรอะไรต่างๆที่เขามีอยู่ แต่ตนก็ไม่อยากกล่าวหาไปก่อน ก็ต้องรอดูกันอีกทีว่าสุดท้ายแล้วท่าทีของสว.ชุดนี้ เป็นแบบคำครหาหรือไม่ และรอที่จะลองทำงานร่วมกัน และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก ส่วนตัวคิดว่าดีกว่าการให้คุณคนเดียวแต่งตั้ง200 กว่าคนมา