เปิด 2 คำถามประชามติ จากครม. - รัฐสภา ชงกกต. จัดทำพร้อมเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการออกเสียงประชามติครั้งที่หนึ่ง เพื่อขอความเห็นชอบในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จัดการออกเสียงประชามติในวันเดียวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569

การกำหนดให้มีการออกเสียงประชามติและการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันเดียวกัน มีเหตุผลสำคัญเพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดภาระการดำเนินงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนสูงสุด เนื่องจากไม่ต้องเดินทางไปใช้สิทธิหลายครั้ง

ส่ง 2 คำถามประชามติ ตามกรอบกฎหมาย

ในหนังสือดังกล่าว คณะรัฐมนตรีได้ส่งคำถามสำหรับการออกเสียงประชามติครั้งที่หนึ่งไปยัง กกต. รวม 2 คำถาม ได้แก่
คำถามที่ 1 ตามมติที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 คือ
“ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่”

คำถามที่ 2 ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด คือ
“ท่านเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่”

ทั้งสองคำถามเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 9 วรรคสอง (2) และ (4) รวมถึงมาตรา 11 วรรคสาม และสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

สภาฯ จัดทำข้อมูล กกต. เผยแพร่ประชาชน

นอกจากนี้ ยังขอให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดทำข้อมูลประกอบการออกเสียงประชามติตามมาตรา 15 ของกฎหมายประชามติ และส่งให้ กกต. ก่อนวันประกาศให้มีการออกเสียงไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้ กกต. เผยแพร่ข้อมูลแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยข้อมูลดังกล่าวจะใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับทั้งคำถามของรัฐสภาและคำถามของคณะรัฐมนตรี

เตรียมงบ - เปิดพื้นที่สื่ออย่างเท่าเทียม

ในส่วนของงบประมาณ ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชามติควบคู่การเลือกตั้งต่อไป

ขณะเดียวกัน ได้ขอความร่วมมือจากสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ของรัฐ รวมถึงผู้ประกอบกิจการสื่อเอกชน ให้เปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติอย่างรอบด้านและเท่าเทียม ตามมาตรา 16 ของกฎหมายประชามติ พร้อมทั้งขอให้ กสทช. และ กกต. ร่วมกันกำกับดูแลกระบวนการทั้งหมดให้เป็นไปอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และสอดคล้องกับกฎหมายทุกประการ

ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้เริ่มดำเนินการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ และจะส่งต่อให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยตรงตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดแล้ว