"dBud U" หูฟังเอียร์บัด TWS ตัวแรกของโลก ช่วยตัดเสียงรบกวนเพื่อปกป้องการได้ยินโดยเฉพาะ
เทคโนโลยี "การตัดเสียงรบกวน" ในปัจจุบัน ถูกออกแบบมาให้ลบเสียงที่ไม่ต้องการออกไปเท่านั้น เพื่อให้การโทรออก การบันทึกเสียง และการฟังเพลง สามารถเข้าถึงได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ "หูฟัง dBud U" กลับทำสิ่งนี้ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
หูฟัง dBuds U ถูกออกแบบให้เป็นเอียร์บัด TWS (หูฟังไร้สาย) ตัวแรกของโลก ที่ออกแบบมาเพื่อตัดเสียงรบกวนเพื่อปกป้องการได้ยินโดยเฉพาะ ซึ่งผ่านการรับรอง OSHA อย่างเป็นทางการ ทำให้ dBuds U ทำได้มากกว่าแค่รับสาย ฟังเพลง หรือฟังพอดแคสต์ อีกทั้งยังปกป้องหูของเราจากเสียงที่รุนแรงรอบตัว เช่น เสียงเครื่องบินเจ็ต เสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงอึกทึกของการก่อสร้าง การจราจร ไปจนถึงเสียงที่ดังมาก ๆ อื่น ๆ
dBuds U เหมือนกับหูฟัง TWS ทั่ว ๆ ไปในด้านการทำงาน แต่โดดเด่นกว่าด้วยเรื่องฟีเจอร์ป้องกันเสียงที่ไม่ต้องการ โฟกัสไปที่สุขภาพของหูเป็นหลัก อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มเสียงบางอย่าง อาทิ เสียงของคนรอบข้าง เป็นต้น
dBuds U มีจุกซิลิโคนที่แน่นหนา ป้องกันไม่ให้เสียงรั่วไหลเข้ามา ไม่มีก้านใบหูเหมือน AirPods ตัวเอียร์บัดและเคสมีขนาดค่อนข้างเล็ก เหมาะสำหรับใส่ในกระเป๋าทุกประเภท ด้านในหูฟังติดตั้งไดรเวอร์กราฟีนที่มีความเที่ยงตรงสูง ให้เสียงที่คมชัด สมดุล และสมบูรณ์สำหรับการฟังเพลง ปรับแต่งมาอย่างดีเพื่อมอบเสียงที่คมชัดในทุกแพลตฟอร์มสื่อบันเทิงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ dBuds U ได้ชื่อว่าเป็นหูฟัง TWS เครื่องแรกและเครื่องเดียวของโลก ที่มีระบบป้องกันเสียงรบกวน ซึ่งได้รับการรับรองจาก OSHA โดยตัวหูฟังรวมเอาการตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ การลดเสียงรบกวนแบบพาสซีฟ และการบีบอัดช่วงไดนามิกเอาไว้รวมกันทั้งหมด ช่วยให้หูของเราปลอดภัยตลอดเวลา
ตัวหูฟังมีทั้งหมด 3 โหมด ประกอบไปด้วย
- โหมด Protect : เปลี่ยนหูฟังให้เป็นที่อุดหูอัจฉริยะ สามารถลดผลกระทบจากเสียงดังรอบตัวได้อย่างมาก ปกป้องแก้วหูของเราจากความเสียหาย
- โหมด Augmented : ปรับปรุงการได้ยินและการรับรู้สถานการณ์ด้วยอินพุตเสียงที่มีความหน่วงต่ำ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้ยินเสียงที่สำคัญรอบตัวเท่านั้น
- โหมด Focus : ทำให้โลกรอบตัวเราเงียบลง เราสามารถนั่งสมาธิ ออกกำลังกาย หรือทำงานโดยไม่มีสิ่งรบกวนใด ๆ
dBud U มาพร้อมไดรเวอร์กราฟีน ที่มีอัลกอริธึมการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ มีไมโครโฟน ANC MEMS แบบไฮบริดคู่ในเอียร์บัดแต่ละข้าง ทำให้หูฟังสมบูรณ์แบบทั้งการฟังเพลง การโทร และแม้แต่การใช้คำสั่งเสียง มีการควบคุมทางกายภาพ ใช้งานในขณะใส่ถุงมืออยู่ได้ Bluetooth 5.1 ปรับแต่งเสียงกับอีควอไลเซอร์ได้ กันเหงื่อและน้ำกระเซ็นระดับ IPX4 แบตอึด 7 ชั่วโมง ใช้งานได้นาน 28 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จไฟ เคสชาร์จไฟ 5 นาที หูฟังสามารถใช้ได้นาน 90 นาที ตัวเคสรองรับการชาร์จแบบไร้สาย
มีขายทั้งหมด 3 สี เริ่มจัดส่งเมษา 2022 ในราคา 215 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,100 บาท
แหล่งที่มา yankodesign.com