NRFจ่อปิดดีลอีคอมเมิร์ซ รัสเซีย-ยูเครนไม่กระทบ
#NRF #ทันหุ้น – NRF ยันสงครามรัสเซีย-ยูเครนไม่กระทบ เหตุไม่มียอดขายไปยังประเทศดังกล่าว แย้มผลงานไตรมาส 1/2565 ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งปีคาดเติบโต 50-70% เล็งปิดดีลอีคอมเมิร์ซเร็วๆ นี้ 1 ดีล หนุนโอกาสต่อยอดเติบโต ฟากโบรกมองผลงานปี 2565 โดดเด่น ส่วนแบ่ง Plant & Bean คาดจะพลิกมีกำไร ลงทุนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ร่วมกับ B เป็นอัพไซด์ ราคาเป้าหมาย 9.25 บาท
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRFเปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ความตึงเครียดในรัสเซียและยูเครน ไม่ได้กระทบต่อยอดขายของบริษัท เพราะไม่ได้มีการส่งออกไปยังประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ยังไม่มีการสั่งวัตถุดิบจากรัสเซียและยูเครนด้วย ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด สำหรับเรื่องของการขนส่งน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น
ทั้งนี้เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 1/2565 จะดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนทั้งปีคาดว่ารายได้ปี 2565 จะเติบโต 50-70% จากปีก่อน ที่ 2,100 ล้านบาท ทั้งนี้มองว่ายอดขายอาหารน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง และปัจจุบันเริ่มเห็นการกักตุนอาหารด้วย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้ยอดขายกลุ่มอาหารดีขึ้น
*ดีลซื้อกิจการ
“ภาพรวมธุรกิจยังดีต่อเนื่อง บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากรัสเซียและยูเครน เพราะไม่มีการส่งออกไปประเทศดังกล่าว จึงไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ในส่วนของธุรกิจก็มีโอกาสเติบโตได้ดี เพราะเริ่มเห็นการกักตุนอาหาร จึงทำให้ยอดขายอาหารมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ผลประกอบการไตรมาส 1/2565 น่าจะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนได้ แม้ปกติจะเป็นช่วงโลว์ซีซัน ที่อาจจะเห็นยอดขายน้อยกว่าไตรมาสอื่น” นายแดน กล่าว
นอกจากนี้มีการเจรจาอยู่ 5-7 ดีล คาดว่าจะสามารถปิดดีลในเร็วๆ 1 ดีล เป็นดีล Ecommace ธุรกิจ E-Commerce ในตลาด E-Commerce โดย Amazon.com ซึ่งมีศักยภาพธุรกิจ เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเป็นตลาดกลางออนไลน์ ซึ่งมีการเติบโตที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคในยุคปัจจุบันที่มีการซื้อ-ขายสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
ส่วนธุรกิจโปรตีนจากพืช (Plant-Based Food) ก็มีแนวโน้มเติบโตได้ดี ได้ร่วมกับบริษัทแพลนแอนด์บีน ในประเทศอังกฤษ ตั้งโรงงานผลิตเนื้อจากพืช Plant-Based ด้วยนวัตกรรมขั้นสูงภายในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ภายในไตรมาส 1/2566 พร้อมกันนี้ทาง NRF วางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตอาหารที่ปล่อยมลพิษเป็นลบทั้งในประเทศไทย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทําให้รายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาจากพืชนั้นเพิ่มขึ้น 20% ในปี 2566
*ผลงานปี 65 โดดเด่น
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง NRF ว่าคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2565 คาดเห็นการเติบโตเด่น จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังปัจจัยกดดันต่างๆ คลี่คลายมากขึ้น, ส่วนแบ่งผลประกอบการจาก Plant & Bean คาดจะพลิกมีกำไรหลังเดินหน้าเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตหลังจากนี้ ประกอบกับธุรกิจ E-commerce จะรับรู้รายได้ได้มากขึ้น และบริษัทยังมีแผนในการสร้างการเติบโตผ่านการเข้าซื้อกิจการ E-commerce อย่างต่อเนื่อง คาดไม่ต่า กว่า 5 ธุรกิจต่อปี อีกทั้งบริษัทประกาศเข้าลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ร่วมกับบริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน)โดย NRF ถือหุ้นสัดส่วน 60% เงินลงทุนราว 700 ล้านบาท คาดเป็นช่วยหนุนรายได้ในระยะยาวเป็น Upside ต่อประมาณการ
อย่างไรก็ตามด้วยสัดส่วนของ SG&A/Sales ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดตามสัดส่วนรายได้ E-commerce และบริษัทมีโอกาสในการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ไม่มีตัวตนเพิ่มขึ้นในปี 2565 จากมาตรฐานบัญชีของต่างประเทศ ทำให้เรามีโอกาสในการปรับประมาณการปี 2565-2566 ลง เพื่อเพิ่มความระมัดระวัง และสะท้อนปัจจัยดังกล่าว จึงยังคงคำ แนะนำ TRADING ที่ราคาเป้าหมาย 9.25 บาท