“เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” ระบบขัดข้อง-ขั้นตอนซับซ้อน ทำคนใช้สิทธิน้อย?

นโยบายดี แต่ระบบไม่พร้อม
โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” เปิดตัวด้วยเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยหลังฤดูกาลท่องเที่ยวซบเซา ด้วยการสนับสนุนเงินช่วยค่าที่พักครึ่งหนึ่งจำนวน 500,000 สิทธิ์ทั่วประเทศ นโยบายนี้ตั้งใจช่วยคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในราคาที่เอื้อมถึง และช่วยผู้ประกอบการโรงแรมฟื้นตัวหลังเผชิญโควิด-19 และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม หลังเปิดลงทะเบียนเพียงไม่กี่ชั่วโมง ระบบกลับล่มทันที ความคาดหวังถูกแปรเปลี่ยนเป็นความสับสนและความหงุดหงิด การใช้งานแอปพลิเคชันติดขัดยาวนาน และขั้นตอนยืนยันตัวตนซับซ้อนเกินกว่าที่หลายคนจะทำได้ในเวลาจำกัด
ระบบล่มตั้งแต่วันแรก ความไม่พร้อมที่ชัดเจน
วันแรกของการเปิดลงทะเบียนคือบททดสอบสำคัญของระบบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชัน Amazing Thailand ได้ บางคนถูกเด้งออกจากแอปทันทีที่เปิดหน้าใช้งาน บางคนเปิดเว็บไซต์ก็ไม่โหลดข้อมูล
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นจากการที่มีผู้เข้าลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมากเกินกว่าที่ระบบจะรองรับได้ ทีมพัฒนาระบบไม่สามารถเตรียมแผนรองรับความต้องการแบบ “พีคสุด” ได้ดีพอ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถลงทะเบียนได้ทันแม้พยายามหลายรอบ
แอป ThaID ยืนยันตัวตนได้แค่หลักร้อย ระบบคอขวดชัดเจน
ระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้คือการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaID เพื่อป้องกันการทุจริตและการใช้สิทธิ์ซ้ำซ้อน แม้มีเจตนาดี แต่ปริมาณคนที่ต้องใช้งานพร้อมกันนั้นสูงถึงหลายแสนคน ขณะที่ระบบสามารถรองรับได้เพียง 100 รายต่อชั่วโมง
ความไม่สอดคล้องระหว่างความต้องการใช้งานจริงกับขีดความสามารถของระบบกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะขั้นตอนยืนยันตัวตนเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่ผ่านขั้นตอนนี้จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้เลย
OTP ไม่มา เพราะโดเมนอีเมลของรัฐถูกบล็อก
อีกปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคือ รหัส OTP ที่จำเป็นสำหรับยืนยันตัวตนทางอีเมล ไม่ถูกส่งถึงผู้ใช้หลายราย ทั้งที่กรอกข้อมูลถูกต้องครบถ้วน สาเหตุเกิดจากระบบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยส่งอีเมลจำนวนมากในเวลาเดียวกัน จนผิดเงื่อนไขความปลอดภัยของผู้ให้บริการอย่าง Google
ผลลัพธ์คือโดเมน tat.or.th ถูกบล็อกชั่วคราว ผู้ใช้งานจำนวนมากจึงไม่ได้รับ OTP และไม่สามารถยืนยันตัวตนให้สมบูรณ์ได้
ขั้นตอนเยอะเกินไป ใช้งานจริงไม่เป็นมิตร
หลายคนเปรียบเทียบกับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่เคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ง่ายกว่า ใช้แอปเดียวก็จบ และไม่ต้องแยกขั้นตอนยืนยันตัวตนจากแอปอื่น
แต่สำหรับเที่ยวไทยคนละครึ่งรอบนี้ ต้องโหลดหลายแอป ใช้เวลาหลายนาทีต่อคนในการกรอกข้อมูล ยืนยันอัตลักษณ์ และเช็กอีเมล ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยตัดสินใจไม่ใช้สิทธิ์ต่อ
โรงแรมบางแห่งหยุดรับสิทธิ์เพราะระบบไม่ตรงข้อมูลจริง
ฝั่งผู้ประกอบการก็พบปัญหาไม่ต่างกัน บางโรงแรมพบว่าราคาห้องพักที่ปรากฏในระบบไม่ตรงกับราคาที่เสนอไว้จริง และไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลา ทำให้ต้องหยุดรับจองสิทธิ์จากประชาชนชั่วคราว
ความเข้าใจผิดเรื่องสิทธิ์ ทำคนแห่ลงทะเบียนเกินจำเป็น
แม้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะชี้แจงว่า สิทธิ์ 500,000 รายการจะหมดเมื่อมีการ “จ่ายเงินค่าที่พัก” ไม่ใช่แค่ลงทะเบียน แต่ประชาชนจำนวนมากเข้าใจว่าเป็นระบบ “ใครมาก่อน ได้ก่อน” ทำให้รีบเข้าไปลงทะเบียนในวันแรก ส่งผลให้ระบบรับโหลดไม่ไหว
บทเรียนของระบบที่ดี ไม่ใช่แค่กันโกง แต่ต้องใช้ได้จริง
เจตนาในการออกแบบระบบยืนยันตัวตนมีเป้าหมายที่ชัดเจน คือการป้องกันการสวมสิทธิ์หรือทุจริต แต่หากระบบนั้นไม่สามารถให้บริการได้จริงในช่วงเวลาที่จำเป็น หรือสร้างภาระต่อประชาชนโดยไม่จำเป็น ก็อาจกลายเป็นเครื่องมือที่ขัดขวางมากกว่าส่งเสริม
การปรับปรุงระบบครั้งนี้จึงควรมากกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ควรทบทวนทั้งแนวทางออกแบบ ระบบเทคโนโลยี และการสื่อสารต่อประชาชนอย่างตรงไปตรงมา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
