เจ้าอาวาสวัดดัง ติดป้ายชื่อ ส.ว.คู่ ส.ต.ท.หญิง เผยไม่เห็นส.ว.มาทำบุญ เขียนชื่อตามซอง
จากกรณีมีกระแสข่าว ที่มีประชาชนไปงานสวดพระอภิธรรมศพชาวบ้านเสียชีวิต ที่วัดแห่งนี้ ในเขต อ.เมือง จ.ราชบุรี ขณะนั่งฟังพระสวดอภิธรรมอยู่นั้น ได้ไปพบป้ายข้อความการบริจาคเงิน เพื่อสร้างศาลาวัดที่อยู่ใกล้กับเมรุเผาศพ โดยได้สร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ สังเกตดูจากสภาพการก่อสร้างยังเป็นอาคารที่ทาสีใหม่ชั้นเดียว มีบันไดทางขึ้น-ลง มีประตูเหล็กเลื่อนขึ้นลงได้ทุกด้าน ถูกปิดไว้ เพราะงานศพเสร็จสิ้นไปแล้ว
ในป้ายปรากฏชื่อบุคคลที่เป็น ส.ว. อักษรนำหน้า ธ. ร่วมกับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม หรือ เจ๊นุช อยู่ด้านในศาลาหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นป้ายยาวประมาณ 30 เซนติเมตร เขียนข้อความชื่อติดไว้ 3 ชื่อ ที่ได้ร่วมกันบริจาคเงินสร้างศาลาไว้สำหรับพระสงฆ์ประกอบพิธีสวดศพ เป็นเงินจำนวน 120,000 บาท และยังมีรายนามชื่อผู้บริจาคของคนอื่นๆ ที่มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างศาลาหลังนี้ร่วมด้วย จึงเป็นที่มาของ ส.ว.ที่ถูกพูดถึงดังกล่าว
เมื่อ 30 ส.ค. 65 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ผู้ช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีที่ ส.ต.ท. หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ทำร้ายร่างการ นางสาวเอ อดีตทหารรับใช้ ได้เดินทางไปที่ศาลาดำรงค์สกุล วัดบางลี่บางลี่เจริญธรรม ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อไปถึงที่ศาลาดำรงค์สกุล ได้มีพระลูกวัดกำลังทำความสะอาด ที่บริเวณศาลาเนื่องจากวันนี้มีงานสวดพระอภิธรรมศพชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น กัน จอมพลัง ได้เดินเข้าไปที่กุฏิเจ้าอาวาส ด้านข้างศาลาดังกล่าว โดยกัน ได้พูดคุยกันหลวงพ่อ อยู่ประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะให้ผู้สื่อข่าวเข้าไป
พบกับพระครูโสภณวิภูษิต เจ้าคณะตำบลท่าราบ เจ้าอาวาสวัดบางลี่เจริญธรรม กล่าวว่า ศาลาแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อตอนปี 2563-2564 โดยมีเงินของญาติโยมและเงินของทางวัดมาร่วมสร้าง โดยเป็นการทอดผ้าป่าไป 1 ครั้ง ซึ่ง ส.ต.ท.(หญิง) ก็มาแต่ไม่บ่อย แต่จะเป็นแม่เขาที่มาเป็นประจำซึ่งตอนที่มาทำบุญบริจาคเงินครั้งนั้น ส.ต.ท.(หญิง) ได้เดินทางมากับโยมแม่ของเขา
ซึ่งการที่เขียนชื่อลงไปนั้นก็ต้องอยู่ที่เจ้าภาพว่าจะต้องการให้ใส่ชื่อใครลงไป ซึ่งที่ผ่านมานั้นก็ไม่เคยเห็น สว.ที่กล่าวถึงมาร่วมทำบุญด้วย ส่วนใหญ่ก็จะมาคนเดียวหรือมากับแม่ และก็จะมีทหารรับใช้มาด้วย ก็ดูสนิทกันดีดูแลกันดี เวลาใช้ไปไหนก็ไป
ส่วนตัวไม่เคยเห็นทะเลาะกันหรือทำร้ายกัน เพิ่งมาทราบก็ตอนเกิดเรื่องแล้ว บางครั้งก็มีการใช้ให้เอาก๋วยเตี๋ยว หรือน้ำดื่ม มาถวายพระ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้สังเกตว่าตามร่างกายมีร่องรอยการถูกทำร้ายหรืออย่างไร และตัวทหารหญิงคนนี้ก็ไม่เคยพูด หน้าตาก็ดูธรรมดาไม่ได้เศร้าหมอง
สำหรับกรณีที่ สว. มาทำบุญหรือไม่นั้นส่วนตัวไม่เคยเห็น และไม่รู้จำ ยังจำไม่ได้ว่าลงชื่อลงไปในรายนามผู้บริจาคหรือไม่ เป็นการลงชื่อตามหน้าซองที่บริจาคมา ในช่วงเดือน เมษายน ที่เปิดรับบริจาค หลังจากที่เกิดเรื่องก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแบบนี้ได้ โดยปกติแล้วก็เป็นคนดีสำหรับพระ ไม่มีการก้าวร้าวกับพระ เวลามาพบกับพระก็ปกติธรรมดาเป็นฆราวาสทั่วไป เวลาที่วัดมีงานมีกิจกรรมก็จะมาช่วยทำบุญมาช่วยวัดตลอด หลังจากปี 64 มาแล้วนั้นก็ไม่เคยเห็นสามี มาร่วมทำบุญด้วย
ส่วนเงินที่บริจาคมานั้น แม่ของ ส.ต.ท.(หญิง) กรศศิร์ ได้เคยบอกว่าหลวงพ่อสร้างศาลามีเงินหรือไม่ ถ้าไม่มีจะปวดหัว เดี๋ยวถ้ามีจะเอามาช่วยหลวงพ่อทำบุญบ้างอย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับทราบข้อมูลจากหลวงพ่อแล้ว กัน จอมพลังและทีมงานได้เดนทางกลับทันที