เลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 ชี้ชะตาโลก “ทรัมป์ vs ไบเดน” ใครคือผู้ชนะ ?
เกาะติดข่าวการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ขับเคี่ยวกับ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ซึ่งอยู่ในโค้งสุดท้าย วันนี้ treuID news จะพาไปเกาะติดความเข้มข้นของการชิงตำแหน่งผู้นำของสหรัฐฯ ว่าจะเป็นใคร?
วันที่ 7 พ.ย. (เวลาประเทศไทย)
คะแนนในรัฐเพนซิลเวเนีย ของ ไบเดน นำทรัมป์ไปกว่า 20,000 คะแนนแล้ว ส่วนในรัฐจอร์เจีย ไบเดน นำทรัมป์ ไม่ห่างนักราว 3,000 คะแนน อย่างไรก็ตามคะแนนรวมทั่วประเทศของไบเดนนำทรัมป์ ห่างถึง 4.1 ล้านเสียง จากจำนวนผู้ใช้สิทธิกว่า 147 ล้านคน
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไบเดน เตรียมที่จะแถลงในวันเดียวกันนี้ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ของวันที่ 6 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐ หรือช่วงสายของวันที่ 7 พฤศจิกายนตามเวลาประเทศไทย
วันที่ 5 พ.ย. (เวลาประเทศไทย)
12.13 น. CNN มีบัตรลงคะแนนประมาณ 90,735 คะแนนที่ยังคงค้างอยู่ในรัฐจอร์เจีย
11.30 น.โจ ไบเดน รายงานแนวโน้มและทิศทางผลการเลือกตั้ง เชื่อมั่นว่าจะชนะ พร้อมแสดงจุดยืน แม้จะหาเสียงและลงสมัครในนามพรรคเดโมแครต แต่ตนพร้อมที่จะบริหารประเทศนี้ในฐานะประธานาธิบดีของคนอเมริกัน
10.21 น. cnn ยังคงมีบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์อีก 29,000 ใบที่เหลือให้นับ ในเขตฟูลตัน รัฐจอร์เจีย
10.00 น. cnn ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้เวลาทั้งวันในการพูดคุยกับผู้ว่าการพรรครีพับลิกันด้วยความโกรธในขณะที่ตั้งข้อสงสัยต่อสาธารณชนเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางกฎหมายของเขาเองที่เขาสั่งให้ผู้ช่วยดำเนินการเป็นการส่วนตัว
9.21 น. 'ทรัมป์ - ไบเดน' จ่อสู้ถึงฎีกา ระหว่างนับบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์
- FOX News รายงานการนับคะแนนเบื้องต้น
- ไบเดน 264 : ทรัมป์ 214
- CNN รายงานการนับคะแนนเบื้องต้น
- ไบเดน 215 : ทรัมป์ 165
- VOAThai รายงานการนับคะแนนเบื้องต้น
- ไบเดน 253 : ทรัมป์ 213
วันที่ 4 พ.ย.
- Foxnews รายงานการนับคะแนนล่าสุดเบื้องต้น ไบเดน 237 : ทรัมป์ 210
- Foxnews รายงานข่าวว่า โดนัล ทรัมป์ ชนะคะแนนในรัฐฟอริด้า ที่มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 29 คะแนน รัฐนี้เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรครีพลับรีกัน ในการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ สมัยที่แล้ว โดยครั้งนี้ ทรัมป์ ในนามพรรครีพลับรีกัน ยังคงเก็บชัยชนะได้อยู่ เพราะหากพ่ายในรัฐนี้ไป อาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เห็นตัวผู้แพ้ชนะทันที
- ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า กลุ่มคนรุ่นเจเนอเรชั่น วาย หรือคนกลุ่มอายุ 25-35 ปีที่เกิดช่วงปีค.ศ. 1985-1995 และกลุ่มคนรุ่นเจเนอเรชั่น ซี หรือกลุ่มคนอายุ 18-23 ปีที่เกิดหลังปี ค.ศ. 1996 เป็นต้นไป อาจออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันอังคารนี้มากเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นกระแสต่อเนื่องมานับตั้งแต่การเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อสองปีที่แล้ว
วันที่ 3 พ.ย.
- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในคืนนี้ ขณะที่ตลาดการเงินทั่วโลกต่างรอลุ้นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งได้เปิดฉากขึ้นแล้ว
- โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต กวาดคะแนนเสียงทั้งหมด 5 เสียงจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเมืองดิกซ์วิลล์นอตช์ ในรัฐนิวแฮมเชียร์ที่อยู่ติดกับพรมแดนสหรัฐ-แคนาดา ซึ่งเมืองเป็นเมืองแรก ๆ ในประเทศที่รู้ผลการเลือกตั้งก่อนพื้นที่อื่น
- ทรัมป์ยังไม่มีกำหนดแผนการเดินทางหาเสียงในวันเลือกตั้ง และยังมีรายงานว่า ในการหาเสียงนายทรัมป์ขู่ว่าจะฟ้องร้อง เพื่อให้หยุดการนับคะแนนที่มาถึงหลังวันเลือกตั้ง ขณะที่บางรัฐอนุญาตให้นับคะแนนได้ หากมีตราไปรษณีย์ประทับล่วงหน้า
- การเลือกตั้งสหรัฐเปิดฉากขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในหมู่บ้านดิกซ์วิลล์ นอตช์ และหมู่บ้านมิลส์ฟิลด์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ เป็นชาวอเมริกันกลุ่มแรกที่หย่อนบัตรลงคะแนนในวันเลือกตั้งสหรัฐ ทั้งนี้ หมู่บ้านดิกซ์วิลล์ นอตช์ ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ถือเป็นสถานที่แรกในประเทศที่เปิดให้มีการลงคะแนนเสียงหลังเลยเที่ยงคืนย่างเข้าวันที่ 3 พ.ย.ตามเวลาสหรัฐ
- ศาลรัฐเท็กซัส ปฏิเสธคำฟ้องจากผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันที่ต้องการผู้พิพากษาประกาศให้การลงคะแนนเลือกตั้งด้วยวิธีไดรฟ์ทรูในนครฮิวสตัน ซึ่งมีผู้ใช้สิทธิ์ไปแล้วราว 127,000 คน เป็นเรื่องโมฆะ
- ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังจะมาถึงในอีกไม่ถึง 24 ชม.ข้างหน้า ผู้สมัครทั้งสองคนต่างพยายามแย่งชิงคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ที่คาดว่ามีอยู่ราว 5%
- ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เผยแผนไล่ นายแพทย์ แอนโธนี เฟาชี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐฯ ออกจากทีมเฉพาะกิจให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หลังมีรายงานข่าวความเห็นที่ไม่ลงรอยกันระหว่างทั้งสองมาเป็นเวลานาน
วันที่ 2 พ.ย.
- (2พ.ย.) สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลจาก Center for Responsive Politics (CRP) ว่า ค่าใช้จ่ายรวมในการเลือกตั้งสหรัฐ 2020 รวมถึงการเลือกประธานาธิบดีและสมาชิกวุฒิสภา จะสูงถึงเกือบ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่ใช้ในการเลือกตั้ง 2 ครั้งก่อนรวมกัน
- ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (1 พ.ย.) พบว่าโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ปี 2020 จากพรรคเดโมแครต ยังมีคะแนนนำโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ ถึง 10 จุดก่อนวันเลือกตั้งเพียงสองวัน สำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์ และวอลล์สตรีทเจอร์นัล เผยผลสำรวจความเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งระดับชาติ โดยคะแนนนิยมของไบเดนอยู่ที่ร้อยละ 52 ขณะที่เสียงสนับสนุนทรัมป์อยู่ที่ร้อยละ 42ผลสำรวจครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งนี้พบว่าไบเดนนำหน้าทรัมป์ถึง 6 จุด ใน 12 รัฐสวิงสเตท ได้แก่ แอริโซนา ฟลอริดา จอร์เจีย ไอโอวา เมน มิชิแกน มินนิโซตา นอร์ธแคโรไลนา นิวแฮมป์เชียร์ เนวาดา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน
- กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายสิบกลุ่ม ที่กล่าวว่าเป็นตัวแทนของชาวอเมริกันหลายล้านคน จากทั้งพรรคเดโมเเครตและรีพับลิกัน กล่าวว่า จะออกมาเดินขบวนสัปดาห์หน้า ถ้าหากว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีท่าทีที่จะเเทรกแซงการนับคะเเนน หรือบิดเบือนผลการเลือกตั้ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคู่ชิงจากพรรคเดโมแครต นายโจ ไบเดน เร่งหาเสียงในรัฐสมรภูมิที่จะเป็นปัจจัยชี้ขาดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เหลืออีกเพียงสองวันก่อนการเลือกตั้ง ในวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน ประธานาธิบดีทรัมป์จัดการปราศรัยหาเสียงใน 5 รัฐสำคัญในช่วงสองวันจากนี้ คือรัฐมิชิแกน รัฐไอโอวา รัฐนอร์ธแคโรไลนา รัฐจอร์เจีย และรัฐฟลอริดา ขณะที่นายไบเดนยังคงปักหลักหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย
- ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนของ Reuters/Ipsos ระบุว่า คนอเมริกันไม่ว่าจะอยู่ฝั่งการเมืองใด ต่างกังวลว่าการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนอาจมีการโกงการเลือกตั้ง ถูกแทรกแซง หรือได้รับผลกระทบจากความพยายามสกัดกั้นการใช้สิทธิ์
- ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน คู่ชิงประธานาธิบดี มุ่งหน้าสู่แถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีความสำคัญในการชิงชัยศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ครั้งนี้ หลังจากทั้งคู่ได้จัดการปราศรัยแข่งกันในรัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (29 ต.ค.) โดยได้เน้นถึงแนวทางที่แตกต่างกันในการรับมือกับไวรัสโคโรนา
- คนอเมริกันที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง 71 ล้านคน ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าเพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ ก่อนวันเลือกตั้งจริงคือวันที่ 3 พฤศจิกายน ถือเป็นตัวเลขที่มากที่สุดเป็นสถิติใหม่ และมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทั้งหมดในการเลือกตั้ง 4 ปีที่แล้วที่มีผู้ลงคะแนน 138.8 ล้านคน
- Facebook ได้มีการลบโฆษณาที่ต้องการจะแทรกแซงหรือขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งบน Facebook และ Instagram ไปแล้วมากถึง 2.2 ล้านรายการ รวมไปถึงยังได้จัดการโพสต์ที่เข้าข่ายไปแล้ว 120,000 โพสต์ โดยปฎิบัติการดังกล่าว ทาง Facebook ใช้ทีมขนาดใหญ่กว่า 35,000 คน พร้อมร่วมมือกับสื่อเฉพาะทางอีก 70 เจ้าที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่าง ๆ
เกาะติดสถานการณ์ ผ่าน trueidnews และ idStation >>คลิ๊กที่นี่