รีเซต

ลงทุนอย่างไร กลุ่มท่องเที่ยว? หลังโบรกฯ ชี้ Q2 เริ่มไม่เด่น

ลงทุนอย่างไร กลุ่มท่องเที่ยว?  หลังโบรกฯ ชี้ Q2 เริ่มไม่เด่น
ทันหุ้น
1 มิถุนายน 2566 ( 12:13 )
50

บล.หยวนต้า ส่องหุ้น "กลุ่มท่องเที่ยว" ผลประกอบการ Q2/66 คาดเติบโต YoY จากฐานต่ำ แต่ส่วนใหญ่เริ่มชะลอ QoQ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวภายใต้ Yuanta Coverage รายงานกำไรปกติ Q1/66 รวม 393 ล้านบาท -87.4% QoQ (หลักๆ กดดันจาก MINT) แต่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY บริษัทส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการดีกว่าคาด หนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใน Q1/66 ที่ +19% QoQ และการปรับขึ้นของ ADR ที่ทำได้ต่อเนื่อง ช่วยชดเชยผลกระทบจากต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นได้

 

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ Q2/66 ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปกติของกลุ่มท่องเที่ยวสามารถฟื้นตัว YoY หนุนจากภาพการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวทั่วโลก อย่างไรก็ดีหากเทียบ QoQ ทั้งนี้คาดแค่ MINT ที่ผลประกอบการเติบโต QoQ จากการเข้าช่วง High Season ของโรงแรมในยุโรป แต่ผู้เล่นรายอื่นคาดผลประกอบการชะลอลง QoQ ตามปัจจัยด้านฤดูกาลที่การท่องเที่ยวในไทยและมัลดีฟส์เข้า Low Season จำนวนนักท่องเที่ยวเดือนพ.ค.66 เริ่มทำให้เป้าหมายทั้งปีท้าทายมากขึ้น

 

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 1 ม.ค.-21 พ.ค.66 อยู่ที่ราว 9.78 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วง 1-21 พ.ค.66 จะอยู่ที่ 1.12 ล้านคน หรือคาดหวังตัวเลขทั้งเดือนที่ระดับ +/-1.5 ล้านคน ชะลอลง MoM เทียบกับค่าเฉลี่ยม.ค.-เม.ย.66 ที่ราว 2.1 ล้านคนต่อเดือน หลักๆ กดดันจากปัจจัยด้านฤดูกาล และการไม่มีวันหยุดต่อเนื่อง แม้ภาครัฐมองว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวยังเป็นไปตามคาดและจะเร่งตัวขึ้นได้ดีช่วง 2H66 แต่ในมุมมองของฝ่ายวิจัยการชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญของจำนวนนักท่องเที่ยวกำลังสร้าง Sentiment เชิงลบต่อเป้าหมายนักท่องเที่ยวทั้งปี 2566 ของตลาดที่ราว 25-30 ล้านคนให้อาจมี Downside Risk หากQ3/66 นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนไม่ฟื้นตัวแรงอย่างที่ตลาดคาด

ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยบวกไปมาก ...ในระยะถัดไปต้องระวังแรงกดดันเชิงลบ

 

ประเมินว่าราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวสะท้อนปัจจัยบวกไปมากแล้วจาก 1) ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ Outperform ตลาด -2.48% YTD เทียบ SET Index -8.02% YTD และ 2) แม้กลุ่มท่องเที่ยวส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการ Q1/66 ดีกว่าคาด แต่หุ้นกลับเจอแรงขายทำกำไรบางส่วน เพราะมี Upside ที่จำกัด และส่วนใหญ่กำลังจะเข้าสู่ Low Season ของธุรกิจ 

 

ทั้งนี้ มองว่าในระยะถัดไป อุตสาหกรรมจะเริ่มมีความเสี่ยงเชิงลบมากขึ้นเช่น หากเศรษฐกิจโลกถดถอย จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แม้โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะถดถอยยังต่ำ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติถือเป็นรายได้หลักกว่า 60% ของภาคการท่องเที่ยวไทย มีโอกาสที่ไทยจะได้รับผลกระทบดังกล่าวเช่นกัน 

 

รวมไปถึงการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน หากเกิดขึ้นได้ช้า เพราะข้อจำกัดด้านการเดินทาง เพราะเที่ยวบินจำกัดและการขอวีซ่าใช้เวลานาน หรือแม้กระทั่งเศรษฐกิจจีนที่เริ่มส่งสัญญาณว่าฟื้นตัวช้ากว่าคาด มีโอกาสส่งผลให้การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยไม่เป็นอย่างที่หวังปรับลดกรอบ Multiple ของหุ้นในกลุ่มลง เพื่อจากัด Downside Risk

 

ภายใต้สมมติฐานสำคัญ คือ ความเสี่ยง Recession ที่สูงขึ้น

 

เพื่อให้ราคาเหมาะสมของฝ่ายวิจัยอนุรักษ์นิยมมากขึ้น ปรับลด EV/EBITDA Multiple ของหุ้นในกลุ่มลง ส่งผลให้ราคาเหมาะสมใหม่ปรับลดลงดังนี้ CENTEL (TP@51.50) ERW (TP@5.00) VRANDA (TP@8.70) ขณะที่ MINT SHR คงราคาเหมาะสม เนื่องจากปรับลงให้ซื้อขายบน EV/EBITDA ที่เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีไปก่อนหน้าแล้ว

 

คงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” 

 

เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่ผลประกอบการระยะสั้นไม่เด่นเพราะปัจจัยด้านฤดูกาล อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยหนุนให้ฝ่ายวิจัยและตลาดต้องปรับประมาณการขึ้น ดังนั้นในระยะสั้นนักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรจากหุ้นที่มีผลประกอบการแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม เลือก MINT (TP@43.50) เป็นตัวแทนดังกล่าว ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆ คาดจะกลับมาน่าสนใจทยอยสะสมช่วง 2H66 หากนักท่องเที่ยวจีนกลับมาได้เต็มศักยภาพ และหนุนให้ผลประกอบการ Q4/66 ฟื้นตัวเด่น

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง