จับตา 3 คดีการเมืองเดือนสิงหาคม อาจเปลี่ยนสมการอำนาจ

สิงหาคม 2568 กลายเป็นเดือนที่หลายฝ่ายกำลังจับตามอง เพราะมีคดีการเมืองระดับประเทศที่อาจส่งผลต่อทั้งผู้นำรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี และทิศทางการเมืองในภาพรวม ผลลัพธ์จะออกมาแบบใดนั้นยังไม่มีใครรู้ แต่ทุกคดีมีน้ำหนักมากพอที่จะกระทบเสถียรภาพทางการเมืองในทันที
คดีคลิปเสียงแพทองธาร ชินวัตร – จากเสียงสนทนาสู่ศาลรัฐธรรมนูญ
จุดเริ่มต้นคือการเผยแพร่คลิปเสียงที่ถูกอ้างว่าเป็นการสนทนาระหว่างนายกฯ แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา มีถ้อยคำที่ตีความได้หลายแบบ ฝ่ายหนึ่งมองว่าเป็น “เทคนิคการเจรจา” เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ ขณะที่อีกฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) เรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีและมาตรฐานจริยธรรม
สมาชิกวุฒิสภา 36 คนยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวตั้งแต่ 1 กรกฎาคม กำหนดวันไต่สวนพยาน 21 สิงหาคม โดยจะสอบแพทองธารและเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนให้คู่ความยื่นปิดคดีเป็นหนังสือ และนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.
ผลที่เป็นไปได้มีหลายทาง ตั้งแต่ศาลยกคำร้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ วินิจฉัยว่าผิดและให้พ้นตำแหน่งทันที ไปจนถึงการตัดสินใจลาออกก่อนมีคำชี้ขาด หากเกิดกรณีหลุดจากตำแหน่ง จะต้องเข้าสู่กระบวนการโหวตนายกฯ คนใหม่ทันที
คดีมาตรา 112 ของทักษิณ ชินวัตร – เส้นทางกฎหมายที่เหลืออยู่
คดีนี้มาจากการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อปี 2558 ซึ่งอัยการเห็นว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ศาลอาญามีคำสั่งให้พิจารณาคดีแบบลับ และกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต
เดิมฝ่ายทักษิณหวังพึ่งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่รวมคดี 112 แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ผ่านการพิจารณา ทำให้ต้องเดินคดีตามกระบวนปกติ ทักษิณได้ขึ้นเบิกความต่อศาลเมื่อ 16 กรกฎาคม และไม่มีการนำพยานจำเลยเพิ่มเติม ศาลนัดอ่านคำพิพากษา 22 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ผลจะเป็นอย่างไรยังไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ไม่ว่าทางใด ผลย่อมกระทบต่อบทบาททางการเมืองและเสรีภาพของเจ้าตัว
คดีป่วยทิพย์ – การตีความมาตรฐานการปฏิบัติต่อนักโทษ
หลังกลับประเทศไทยเมื่อ 22 สิงหาคม 2566 ทักษิณซึ่งต้องโทษจำคุก 8 ปี (ภายหลังลดเหลือ 1 ปี) ถูกส่งไปพักรักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลา 180 วัน รายการค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าห้องพักและค่าอาหาร ทำให้เกิดข้อสงสัยในสังคมเรื่องความจำเป็นทางการแพทย์
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ไต่สวนการอนุญาตดังกล่าว ศาลได้เรียกพยานกว่า 20 ปาก รวมถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กำหนดนัดอ่านคำพิพากษา 9 กันยายน ซึ่งจะเป็นตัวชี้ว่าการปฏิบัตินั้นอยู่ในกรอบกฎหมายหรือไม่
ปัจจัยร่วมและความเป็นไปได้
สามคดีนี้มีจุดร่วมคือเกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีอิทธิพลทางการเมืองสูง และทุกคดีมีความซับซ้อนในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน หรือบริบททางการเมืองในช่วงเวลาเดียวกัน
ปัจจัยภายนอก เช่น ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา และปัญหาเศรษฐกิจ อาจทำให้ผลคดีมีน้ำหนักมากขึ้นต่อเสถียรภาพของรัฐบาล สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นมีตั้งแต่การคงโครงสร้างอำนาจเดิม การสลับตัวผู้นำรัฐบาล ไปจนถึงการปรับขั้วทางการเมืองใหม่ทั้งหมด ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลและท่าทีของฝ่ายการเมืองในแต่ละช่วงเวลา
บทสรุปที่ยังเปิดกว้าง?
สิงหาคม–กันยายน 2568 เป็นช่วงที่หลายปัจจัยทางการเมืองและกฎหมายมาบรรจบกัน คำตัดสินของศาลในแต่ละคดีจะมีน้ำหนักต่อทิศทางประเทศ แต่จะมากน้อยแค่ไหนยังต้องรอดู ความไม่แน่นอนนี้เองที่ทำให้ทุกฝ่ายจับตาอย่างใกล้ชิด และเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้หลายรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นต่อจากนี้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
