ยังไงดี! "เทสลา" ยอดขายสหรัฐฯ ร่วงต่ำสุดรอบ 4 ปี

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ยอดขายของเทสลาในตลาดสหรัฐอเมริกา เดือนพฤศจิกายนปรับตัวลดลงแรง สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2022 โดยตัวเลขประเมินจาก Cox Automotive ระบุว่ายอดขายอยู่ที่ประมาณ 39,800 คัน ลดลงเกือบร้อยละ 23 จากกว่า 51,000 คันในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งที่บริษัทเพิ่งออกเวอร์ชัน Standard ของ Model Y และ Model 3 ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมในราคาต่ำลงราว 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคัน
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ยุติการให้เครดิตภาษีรถไฟฟ้ามูลค่า 7,500 ดอลลาร์ต่อคันเมื่อปลายเดือนกันยายน ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมในสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายนหดตัวมากกว่าร้อยละ 41 เมื่อเทียบปีต่อปี แม้เทสลาจะสูญเสียยอดรวม แต่ส่วนแบ่งตลาดกลับเพิ่มขึ้นจากราวร้อยละ 43 เป็นเกือบร้อยละ 57 สะท้อนว่าคู่แข่งรายอื่นได้รับผลกระทบหนักกว่า
อย่างไรก็ตาม การออกเวอร์ชัน Standard ไม่ได้สร้างอุปสงค์ใหม่เท่าที่คาด และกลับไปกินส่วนแบ่งของรุ่นพรีเมียม โดยเฉพาะ Model 3 ในขณะที่กำไรของธุรกิจถูกบีบจากทั้งส่วนลดผู้บริโภคและการแข่งขันด้านราคา เทสลาจึงต้องหันมาใช้มาตรการจูงใจเพิ่มเติม เช่น เสนอดอกเบี้ย 0% สำหรับการผ่อน Model Y เวอร์ชัน Standard และปรับลดราคารถบางรุ่นในสต็อก ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณของอุปสงค์ที่อ่อนแรงมากกว่าความแข็งแกร่งของตลาด
ด้านโครงสร้างผลิตภัณฑ์ เทสลาก็เผชิญความท้าทายเช่นกัน ยอดส่งมอบทั้งปีที่แล้วลดลงเป็นครั้งแรกหลังจากเติบโตต่อเนื่องหลายปี และมีแนวโน้มลดลงอีกในปีนี้ Cybertruck ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดยังไม่สามารถสร้างยอดได้อย่างที่คาดหวัง ขณะที่รุ่นอื่น ๆ ส่วนใหญ่เป็นโมเดลเดิมที่ถูกปรับโฉมเพียงเล็กน้อย ทำให้บริษัทถูกกดดันให้เร่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่สดและตอบโจทย์ตลาดมากขึ้น
แรงเสียดทานด้านภาพลักษณ์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง เมื่อบทบาททางการเมืองและถ้อยคำทางการเมืองของอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัท กลายเป็นชนวนให้เกิดกระแสต่อต้านและส่งผลลบต่อแบรนด์ในบางกลุ่มผู้บริโภค นักวิเคราะห์จำนวนมากจึงมองตรงกันว่า แม้เทสลายังเป็นผู้นำตลาดรถไฟฟ้าสหรัฐ แต่ตัวเลขล่าสุดสะท้อนความท้าทายเชิงโครงสร้าง และคำตอบระยะถัดไปอาจไม่ใช่การลดราคาเพิ่ม แต่คือการเร่งออกแบบและเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่สามารถดึงอุปสงค์กลับมาได้อย่างมีนัยสำคัญมากกว่าเดิม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
