รีเซต

สาวติดคุก 21 เดือน ขอรับเงินเยียวยา ถูกจับคดียาเสพติด 41 เม็ด ศาลฎีกาชี้เป็นผู้บริสุทธิ์

สาวติดคุก 21 เดือน ขอรับเงินเยียวยา ถูกจับคดียาเสพติด 41 เม็ด ศาลฎีกาชี้เป็นผู้บริสุทธิ์
มติชน
1 มีนาคม 2564 ( 18:06 )
43
สาวติดคุก 21 เดือน ขอรับเงินเยียวยา ถูกจับคดียาเสพติด 41 เม็ด ศาลฎีกาชี้เป็นผู้บริสุทธิ์

สุรินทร์-จากกรณีที่ น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร อายุ 25 ปี หลังศาลฎีกา มีคำพิพากษาตัดสิน น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ในคดียาเสพติด (ยาบ้า จำนวน41 เม็ด ) ซึ่งน.ส.สุพรรณษาฯ ต้องติดคุกระหว่างต่อสู้ในชั้นฎีกา 13 เดือน รวม 2 ครั้งเป็นเวลา 21 เดือน

 

เมื่อวันที่  1 มี.ค. ที่อาคารบูรณาการยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ถนนเลี่ยงเมืองสายใน ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสา พร้อมด้วยนางพัชรพร บำเพ็ญเพียร อายุ 53 ปี ผู้เป็นแม่ของ น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร อายุ 25 ปี ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคดีนี้ ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอเงินเยี่ยวยาตาม พรบ.ช่วยเหลือ ผู้ต้องหาของกระทรวงยุติธรรม

 

โดยมีนายโยธิน บัวแก้ว ผอ.ยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดเจ้าหน้าที่เพื่อรับเรื่องเพื่อ ให้การช่วยเหลือเยี่ยวยา โดยจะนำเรื่องคำร้องขอรับการเยี่ยวยาช่วยเหลือส่งให้คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป

 

 

นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสา กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำลูกความผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกรณีดังกล่าวมาที่สำงานยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ยืนคำร้องขอรับเงินเยี่ยวยา ตาม พรบ.ช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือจำเลย ของกระทรวงยุติธรรมเป็นที่เรียบร้อย ส่วนทางคณะอนุกรรการจะพิจารณา วินิจฉัยว่าจะช่วยเหลือได้หรือไม่ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนยุติธรรม ส่วนระเวลาดำเนินงาน ได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว ทราบว่าทำให้เร็วที่สุดแต่ไม่ทราบว่าจะใช้เวลากี่เดือนแต่จะดำเดินการให้เร็วที่สุด

 

ขณะที่น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ยังแสดงอาการป่วยซึมเศร้า นิ่งเงียบ ตอบคำถามกับผู้ข่าวว่า มาถึงวันนี้ ตนเองดีใจ และมีกำลังใจขึ้น ตนเองติดคุกฟรีมานานถึง 21 เดือน วันนี้ญาติพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียง มาสอบถามสารทุกข์ ก็มีกำลังใจมากขึ้น

 

 

ส่วนนางพัชรพร บำเพ็ญเพียร อายุ 53 ปี ผู้เป็นแม่ กล่าวสั้นๆว่ามาถึงวันนี้แล้วมีกำลังใจมากขึ้น แต่ก่อนนั้นตนลำบากมากต้องเดินทางมาเยี่ยมลูกสาวเดือนละหลายครั้ง จนกระทั่งได้ออกจากคุก ขอบคุณทนายคำสิงห์ ชอบมี ขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจครอบครัวของตนทำให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป

 

ซึ่งนายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสา ระบุว่าตนใช้เวลากว่า 4 เดือน ทำเรื่องยื่นฎีกาเข้าไป จนศาลจังหวัดสุรินทร์ได้รับเรื่องยื่นคำร้อง แล้วส่งให้ศาลฎีกาซึ่งศาลฎีกาก็รับเรื่องไว้พิจารณา ตั้งแต่ศาลอุธรณ์ มีคำพิพากษา ลูกความตนต้องอยู่ในเรือนจำถึง 13 เดือน ระหว่างต่อสู้ในชั้นศาลฎีกา จนในที่สุดศาลฎีกาได้มีดุลพินิจพิพากษา

 

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ให้ยกฟ้อง จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำผิด ถือว่าลูกความตนเป็นผู้บริสุทธิ์ สิ่งที่ตนอยากจะสะท้อนให้เห็นว่า ลูกความตนได้ถูกจองจำในเรือนจำรวม 2 ครั้ง เป็นเวลาถึง 21 เดือน อยากจะให้หน่วยงานของรัฐได้เข้ามาเยี่ยวยา

 

โดยจ่ายไปตาม พรบ.เงินทดแทน โดยผ่านกองทุนของจังหวัดมาเยี่ยวยาในจุดนี้ ซึ่งตนก็จะพาลูกความไปยื่นหนังสือเพื่อขอรับเงินเยี่ยวต่อไป ในส่วนที่รัฐจะเยี่ยวยานั้นอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของภาครัฐ ซึ่งในคดีนี้หากไม่มีการยื่นฎีกาลูกความตนต้องติดคุกถึง 8 ปีเลย แต่ที่น่ายินดีที่ศาลฎีกาท่านได้ยกฟ้อง และอยากให้ภาครัฐได้เข้ามาเยี่ยวยาในจุดนี้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง