รีเซต

สถานการณ์โควิดคลายประชาชนแห่เที่ยว กพท.ประกาศเงื่อนไขเข้า-ออกนอกประเทศ

สถานการณ์โควิดคลายประชาชนแห่เที่ยว กพท.ประกาศเงื่อนไขเข้า-ออกนอกประเทศ
TrueID
30 มิถุนายน 2563 ( 14:16 )
1.3K

 

หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ มาตรการหลายอย่างเริ่มผ่อนปรน ประชาชนกลับมาเที่ยวหลังจากเก็บกดที่ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน เพราะกักตัวช่วยชาติ รัฐจึงได้ออกมาตรการเข้า-ออกประเทศ เพื่อป้องกันโควิดกลับมาระบาดรอบ 2 โดยมาตรการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 63 เป็นต้นไป ซึ่งมาตราการนี้ตรงกับช่วงที่แอร์เอเชียมีโปรโมชันตั๋วบินบุฟเฟต์ บินทั่วไทยในราคาเพียง 2,999 บาท และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคอีกด้วย

 

โดยเงื่อนไขที่ กพท.ประกาศกำหนดอนุญาตให้อากาศยานบินผ่าน บินเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลงในท่าอากาศยานที่อยู่ในราชอาณาจักรที่ให้บริการการบินระหว่างประเทศได้ เมื่อได้รับการอนุญาตการบินจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย

  1. อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร (State or Military aircraft)
  2. อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency landing)
  3. อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค (Technical landing)โดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง
  4. อากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือการขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด –19 (Humanitarian aid, medical and relief flights)
  5. อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับภูมิลำเนา (Repatriation)
  6. อากาศยานขนส่งสินค้า (Cargo aircraft)

 

อากาศยานขนส่งคนโดยสารที่จะทำการบินผ่าน บินเข้าออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้น ลงในท่าอากาศยานในราชอาณาจักรที่ให้บริการการบินระหว่างประเทศ จะได้รับอนุญาตการบินจากสำนักงาน การบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเฉพาะเมื่อผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรนั้นเป็นบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังนี้

  1. ผู้มีสัญชาติไทย
  2. ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้
  3. ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
  4. ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรหรือได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
  5. ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงาน ในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ตลอดจนคู่สมรสหรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
  6. ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น แต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็ว
  7. ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้ามา ตามภารกิจและมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
  8. ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาในประเทศไทย ที่ทางการไทยรับรอง ตลอดจนบิดามารดาหรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว
  9. ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว แต่ต้องไม่เป็นกรณีเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลโรคโควิด – 19
  10. บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
  11. ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษ (special arrangement) กับต่างประเทศ

 

รวมถึงอากาศยานและผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อ 2 จะต้องปฏิบัติ ตามเงื่อนไข เงื่อนเวลาและหลักเกณฑ์ของผู้มีอานาจตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศและกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีผลบังคับใช้อยู่ เพื่อการป้องกันโรคและจัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับ ความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองและการจัดสถานที่ไว้กักกัน (quarantine)

 

จากข้อกำหนดทั้งหมดนี้จะช่วยป้องกันการกลับมาของโรคระบาดโควิด-19 คนที่กำลังมีการวางแผนไปเที่ยวช่วงนี้ต้องศึกษาให้ดี และอย่าลืมระวังเรื่องการรักษาระยะห่างตาม social distancing อีกด้วย

 

ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย, AirAsia

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง