นวัตกรรมศูนย์ข้อมูล AI บนอวกาศของ Google อาจต้องฝ่าวิกฤตขยะอวกาศ

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา Google ได้เปิดตัว Project Suncatcher แผนการส่งกลุ่มดาวเทียมจำนวน 81 ดวงเข้าสู่แผนกโคจรต่ำของโลก (Low Earth Orbit) เพื่อสร้างเป็นดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับประมวลผล AI ในอวกาศ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาการใช้พลังงานมหาศาลของดาต้าเซ็นเตอร์บนพื้นโลก ซึ่งปัจจุบันอาคารประมวลผลขนาดกลางเพียงแห่งเดียวอาจใช้ไฟฟ้าเทียบเท่ากับบ้านเรือนถึง 16,500 หลัง
อวกาศทางออกของพลังงานและความร้อน
แนวคิดของ Google คือ การส่งคำสั่งประมวลผล AI เช่น การถามแชทบอท ขึ้นไปยังกลุ่มดาวเทียมโดยตรง เพื่อใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่มีอยู่อย่างมหาศาลและสม่ำเสมอในวงโคจรสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ (Sun-synchronous orbit) การประมวลผลในอวกาศยังช่วยให้ความร้อนที่เกิดขึ้นระบายออกสู่สุญญากาศที่หนาวเย็นได้ทันที โดยไม่ต้องใช้พลังงานหล่อเย็นมหาศาลเหมือนบนโลก
ทั้งนี้ Google วางแผนจะส่งดาวเทียมต้นแบบ 2 ดวงแรกขึ้นสู่ห้วงอวกาศในช่วงต้นปี 2027
ความท้าทายใน "ทุ่งทุ่นระเบิด" เหนือพื้นโลก
แม้จะเป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัย แต่ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ด้านอวกาศเตือนว่า Project Suncatcher กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เขตอันตรายจากขยะอวกาศ ปัจจุบันมีวัตถุขนาดใหญ่กว่าลูกซอฟต์บอลมากกว่า 40,000 ชิ้น ที่ถูกติดตามโดยกองทัพอวกาศสหรัฐฯ แต่นั่นเป็นเพียงไม่ถึง 1% ของขยะอวกาศทั้งหมดที่มีความอันตราย
ขยะเหล่านี้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงถึง 17,500 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งความเร็วระดับนี้ ขยะที่มีขนาดเพียงลูกบลูเบอร์รี่ ก็มีแรงปะทะรุนแรงเท่ากับทั่งเหล็กที่ตกลงมาใส่ หากเกิดการชนแม้เพียงครั้งเดียว อาจนำไปสู่ปรากฏการณ์ Kessler Syndrome หรือปฏิกิริยาลูกโซ่ที่การชนกันครั้งหนึ่งสร้างขยะใหม่มหาศาล จนทำให้วงโคจรนั้นใช้งานไม่ได้อีกต่อไป
ความเสี่ยงจากการบินเกาะกลุ่มที่หนาแน่นเกินไป
Project Suncatcher มีลักษณะเฉพาะคือการบินแบบรวมกลุ่มหนาแน่น โดยดาวเทียมทั้ง 81 ดวงจะอยู่ห่างกันไม่ถึง 200 เมตร เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันเป็นสมองกลขนาดใหญ่เพียงหนึ่งเดียว (Distributed brain) ความหนาแน่นนี้ทำให้แทบไม่มีพื้นที่สำหรับความผิดพลาด หากดาวเทียมดวงหนึ่งถูกชนเพียงเสี้ยววินาที มันอาจพุ่งเข้าหาดาวเทียมดวงข้างเคียงและทำลายทั้งกลุ่มดาวเทียมในทันที
ปัจจุบัน ดาวเทียมของ Google ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีระบบการหลบหลีกอัตโนมัติ (Active avoidance) ที่มีประสิทธิภาพพอจะรับมือกับขยะขนาดเล็ก ซึ่งต่างจากดาวเทียม Starlink ของ SpaceX ที่ต้องทำการหลบหลีกขยะและดาวเทียมดวงอื่นไปแล้วกว่า 144,404 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 เพียงปีเดียว
กฎระเบียบและอนาคตของอวกาศพาณิชย์
การรุกคืบของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เข้าสู่อวกาศ เช่น Google หรือภารกิจที่ยอมรับความเสี่ยงสูงขึ้นอย่าง ESCAPADE ของ NASA แสดงให้เห็นถึงเทรนด์การสำรวจอวกาศยุคใหม่ที่เน้นความคุ้มค่าและนวัตกรรม อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเสนอว่าอาจจำเป็นต้องมีการเก็บภาษีการใช้วงโคจร (Orbital-use fee) เพื่อนำเงินมาสมทบทุนในภารกิจกำจัดขยะอวกาศที่ตกค้างอยู่ และเพื่อให้แน่ใจว่าอวกาศจะยังคงเป็นพื้นที่ที่สามารถใช้ประกอบธุรกิจได้ต่อไปในระยะยาว
การปฏิบัติภารกิจ Project Suncatcher เปรียบเสมือนการนำรถแข่ง 81 คัน มาวิ่งในสนามแข่งด้วยความเร็วหลายหมื่นกิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยรักษาระยะห่างระหว่างรถแต่ละคันเพียงแค่ช่วงเบรกสั้นๆ บนทางหลวง ท่ามกลางสภาพสนามที่มีกระสุนปืนขนาดจิ๋วพุ่งผ่านตลอดเวลา หากรถคันหนึ่งพลาดแม้เพียงนิดเดียว ความเร็วและระยะที่ใกล้กันจะทำให้เกิดการชนวินาศสันตะโรที่ทำลายรถทุกคันในขบวนทันที
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
