รีเซต

ยานเพอร์เซเวียแรนซ์ตรวจพบหินรูปร่างคล้าย "เต่าบนดาวอังคาร"

ยานเพอร์เซเวียแรนซ์ตรวจพบหินรูปร่างคล้าย "เต่าบนดาวอังคาร"
TNN ช่อง16
6 กันยายน 2568 ( 15:16 )
9

วันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ยานสำรวจ เพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ขององค์การนาซา (NASA) ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อแสดงให้เห็นก้อนหินรูปร่างประหลาดที่คล้ายกับ "เต่า" โผล่พ้นกระดองบนพื้นผิวดาวอังคาร 

โดยภาพดังกล่าวถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดกระแสถกเถียงในวงการวิทยาศาสตร์และสังคมออนไลน์ หลายคนตั้งคำถามว่านี่คือหลักฐานใหม่ของสิ่งมีชีวิต หรือเพียงแค่ภาพลวงตาที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมา

การค้นพบครั้งใหม่

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม หรือวันที่ 1,610 ของภารกิจยานเพอร์เซเวียแรนซ์ ซึ่งปฏิบัติการอยู่ในหลุมอุกกาบาตเจซีโร (Jezero Crater) ได้บันทึกภาพหินก้อนดังกล่าวไว้ ลักษณะของหินดูเหมือนหัวเต่าที่กำลังโผล่ออกมา แม้จะเป็นเพียงการตีความรูปร่างจากธรรมชาติ แต่ภาพนี้ก็ถูกแชร์และพูดถึงอย่างกว้างขวาง

ภารกิจเพอร์เซเวียแรนซ์

เพอร์เซเวียแรนซ์เป็นยานสำรวจหุ่นยนต์ขนาดเท่ารถยนต์ ปล่อยขึ้นสู่อวกาศในปี 2020 และลงจอดบนดาวอังคารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 จุดมุ่งหมายหลักคือการค้นหาหลักฐานของสิ่งมีชีวิตโบราณ รวมถึงการเก็บตัวอย่างหินและดินเพื่อเตรียมนำกลับโลกในอนาคต จนถึงปัจจุบัน ยานได้เดินทางแล้วกว่า 23 ไมล์ หรือ 37 กิโลเมตร

เครื่องมือที่ใช้ตรวจจับ

ภาพ "หินเต่า" ถูกถ่ายโดยระบบ SHERLOC หรือ Scanning Habitable Environments with Raman & Luminescence for Organics and Chemicals ที่ติดตั้งบนแขนกลของยาน SHERLOC ใช้แสงอัลตราไวโอเลตตรวจสอบพื้นผิวหินอย่างละเอียด จากนั้นกล้อง WATSON หรือ Wide Angle Topographic Sensor for Operations and eNgineering ซึ่งจะบันทึกภาพความละเอียดสูง ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้เห็นลักษณะของพื้นผิวและแร่ธาตุที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ความสำคัญของการค้นพบ

แม้ว่าหินรูปร่างคล้าย "เต่า" จะเป็นเพียงปรากฏการณ์ที่เกิดจากการกัดเซาะและการสะสมตัวของหินตามธรรมชาติ แต่การศึกษาลักษณะเช่นนี้มีคุณค่ามากต่อการเข้าใจประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของดาวอังคาร ร่องรอยพื้นผิวและชั้นหินสามารถบอกได้ถึงการพัดพาของลม การเกิดเนินทราย หรือแม้แต่หลักฐานว่าครั้งหนึ่งดาวอังคารอาจเคยมีน้ำ

มุมมองนักวิทยาศาสตร์

ผู้เชี่ยวชาญด้านดาวเคราะห์ระบุว่า ภาพถ่ายลักษณะหินเหล่านี้ แม้จะชวนให้นึกถึงสิ่งมีชีวิต แต่ไม่ใช่หลักฐานการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร อย่างไรก็ตาม มันช่วยให้มนุษย์เข้าใจการก่อตัวและวิวัฒนาการของดาวเคราะห์สีแดงได้มากขึ้น 

นักวิทยาศาสตร์ยังมองว่า ปรากฏการณ์ที่ผู้คนเห็นสิ่งมีชีวิตจากรูปร่างของหินนั้นเรียกว่า Pareidolia ซึ่งเป็นการที่สมองมนุษย์ตีความสิ่งที่ไม่คุ้นเคยให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่คุ้นเคย เช่น สัตว์หรือใบหน้า สิ่งเหล่านี้จึงสะท้อนว่าแม้ภาพถ่ายจากอวกาศจะเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังเชื่อมโยงกับจินตนาการของมนุษย์อยู่เสมอ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง