CHขนมสุขภาพแรง ครึ่งปีกำไรโต138%

#CH #IPO #ทันหุ้น – CH โชว์รายได้ครึ่งปีแรก 2565 พุ่ง 910.04 ล้านบาท โต 25.32% กำไรสุทธิ 67.34 ล้านบาท โต 138.33% ขณะที่ครึ่งปีหลังเข้าไฮซีซันของผลไม้หนุนยอดขายเพิ่ม ด้านโบรกเคาะพื้นฐาน 3-3.35 บาทต่อหุ้น ประเมินกำไรปี 2565-2567 กลับมาเติบโตเลขสองหลัก หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้กำลังซื้อกลับมาเพิ่มขึ้น
นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH กล่าวว่า ด้วยศักยภาพของบริษัท ที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและอาหารแปรรูป ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง และ OEM ติดแบรนด์ของลูกค้า จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ของ CH ส่วนใหญ่จะเน้นส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศเป็นหลักรวมกว่า 50 ประเทศ
*รายได้-กำไรโตต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางผลประกอบการครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะเป็นไฮซีซันของบริษัทที่เป็นฤดูกาลของผลไม้ที่ออกมาค่อนข้างมาก และยังได้เงินระดมทุนช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนทางการเงินได้ ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น
ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2565 มีรายได้จากการขาย 910.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.32% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้จากการขายที่ 726.20 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 67.34 ล้านบาท เติบโต 138.33% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 28.25 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเชื่อมั่นและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่ต้องการร่วมเติบโตไปพร้อมกันกับบริษัท
*เคาะพื้นฐาน 3.35 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา CH ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 และการขาดแคลนสายเรือ ปัญหาดังกล่าวเริ่มคลี่คลาย บวกกับการขยายฐานลูกค้าไปยุโรปโดยใช้โรงงานที่กัมพูชาเป็นฐานการผลิตผลไม้อบแห้ง เนื่องจากได้รับ GSP เป็นแหล่งวัตถุดิบมะม่วงที่มีราคาถูก และอัตราค่าแรงถูกกว่าในไทย ประกอบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มขนมเพื่อสุขภาพตามกระแสรักสุขภาพ จึงคาดกำไรสุทธิปี 2565 กลับมาขยายตัว 26.9% YoY เป็น 85.1 ล้านบาท และเติบโตต่อเนื่อง 25.5%YoY และ 26.2%YoY ในปี 2565-2567หรือเติบโตเฉลี่ย 25.8%
พร้อมประเมินมูลค่าเหมาะสมของ CH ที่ 3.35 บาท ด้วยวิธี Relative P/E ที่ 25 เท่า โดยเทียบเคียงกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีลักษณะธุรกิจคล้ายคลึงกัน ได้แก่ JDF, PLUS และ GLOCON ประกอบกับพิจารณาจากคาดการณ์กำไรในช่วงปี 2022-2024 ที่เติบโตเฉลี่ย 25.8% CAGR ดังนั้น การอิง Target P/E 25 เท่า ถือว่าเหมาะสม เพราะใกล้เคียงกับการเติบโตของบริษัทและอยู่ในค่าเฉลี่ยของบริษัทที่ดาเนินธุรกิจใกล้เคียงกัน
*กำไรกลับมาโตสองหลัก
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาพื้นฐานปี 2566 ของ CH ที่ 3.05 บาทต่อหุ้น อิง P/E ที่ 25 เท่า สะท้อนการเติบโตปีหน้า 25% จากการดำเนินงานที่กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังสถานการณ์คลี่คลาย ขณะที่คาดการณ์กำไรปี 2565-2566 กลับมาเติบโต 2 หลักอีกครั้ง หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้กำลังซื้อกลับมาเพิ่มขึ้น
ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนตู้และเรือขนส่งเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อรายได้ของบริษัทจากสัดส่วนการส่งออกที่มีมากกว่า 70% ของยอดขาย และยังได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่าอีกทางทำให้คาดการดำเนินงานปี 2565-2566 เพิ่มขึ้น 16%YoY และ 25%YoY ที่ 78 และ 98 ล้านบาท ตามลำดับ ภายใต้ยอดขายเพิ่มขึ้น 14% และ 12%
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุถึง CH ว่า ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 3 บาทต่อหุ้น ด้วยวิธี P/E ที่ 24 เท่า โดยมีความน่าสนใจ บริษัทมีประสบการณ์ในธุรกิจอาหารแปรรูปกว่า 97 ปี โดยเป็น TOP 5 ของผู้ส่งออกมะม่วงอบแห้งของไทย ที่มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล การตั้งโรงงานที่กัมพูชา ส่งผลดีต่อการขยายฐานลูกค้า และมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี ค่าแรงต่ำกว่าไทย และสายพันธุ์มะม่วงที่เหมาะสมกับการทำมะม่วงอบแห้งแบบ Soft-Dried
ทั้งนี้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565-2566 เติบโตราว 23% CAGR มีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการส่งออก รวมถึงแนวโน้มค่าใช้จ่ายในการขนส่งลดลง
ยอดนิยมในตอนนี้
