รีเซต

ปริศนา “ฮาวานา ซินโดรม” เสียงก่อกวนโสตประสาททูตสหรัฐฯ

ปริศนา “ฮาวานา ซินโดรม” เสียงก่อกวนโสตประสาททูตสหรัฐฯ
TNN Health
4 ตุลาคม 2564 ( 16:56 )
61

เสียงปริศนาก่อกวนโสตประสาทเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงฮาวานา เมืองหลวงของประเทศคิวบา เมื่อ 5 ปีก่อน กลายเป็นโรคที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าโรค “ฮาวานา ซินโดรม” หลังพบหลักฐานว่าเสียงกวนนี้ อาจทำลายประสาทการได้ยิน

 

 

จุดเริ่มต้นโรค “ฮาวานา ซินโดรม” ย้อนกลับไปในปี 2016 มีรายงานเจ้าหน้าที่ในสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบาเกิดป่วยด้วยอาการประหลาด โดยหนึ่งในหน่วยข่าวกรอง มีอาการปวดหู หูอื้อ เวียนศีรษะ และมีปัญหาการรับรู้ ต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็มีเจ้าหน้าที่ของสำนักสอบสวนกลาง หรือ CIA และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อย่างน้อย 26 คน เกิดล้มป่วย ด้วยอาการปวดศีรษะคล้ายๆ กันนี้

 

 

เจ้าหน้าที่ที่ล้มป่วย อธิบายว่าพวกเขามีอาการหูอื้อ ปวดหัว และได้ยินเสียงเหมือน “จักจั่นร้องอื้ออึงอยู่ในหูตลอดเวลา” เมื่อลองสแกนสมอง พบความผิดปกติตรงเนื้อเยื่อสมองบางส่วน คล้ายกับเจออุบัติเหตุทางรถยนต์หรือแรงกระแทกจากระเบิด

 

 

ที่แปลกกว่านั้นคือในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน ได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตอื่นๆ อย่างสถานทูตแคนาดา ที่ประจำการในกรุงฮาวานาของคิวบา เกิดอาการแบบเดียวกันเป๊ะ!

 

 

ในช่วงแรกมีข้อสงสัยว่านี่ อาจจะเป็น “โรคอุปทานหมู่” เพราะยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่อีกด้านมองว่าอาการนี้อาจเกิดจากอาวุธที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Sonic weapons) หรือไม่ ทางการสหรัฐฯ จึงเร่งสืบหาตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการนี้

 

 

สำนักข่าว The Washington Post รายงานว่า อาการลักษณะนี้เกิดขึ้นกับนักการทูตสหรัฐฯ สายลับ ทหาร และเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นๆ ประจำการในรัสเซีย จีน โคลอมเบีย อุซเบกิสถาน และแม้แต่ในสหรัฐอเมริกาเอง มากกว่า 200 ครั้ง

 

 

แม้ยังไม่ยืนยันว่า "ฮาวานา ซินโดรม" เกิดจากอะไร แต่เจ้าหน้าสถาบันวิทยาศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์ และการแพทย์แห่งชาติ เคยประเมินความเป็นไปได้ของสาเหตุของโรค ชี้ว่าอาจเกิดจากคลื่นวิทยุความถี่หนึ่ง เพราะอาการของโรค "สอดคล้องกับผลกระทบของพลังงานความถี่วิทยุโดยตรง"

 

 

ทั้งนี้ อาการเฉียบพลันในระยะเริ่มแรก จากการเก็บข้อมูลโดยเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นั้น สอดคล้องกับผลกระทบของคลื่นความถี่วิทยุ (radio frequency) อาทิ

 

 

- การได้ยินเสียง 'คลิ๊ก' ดังอยู่ในนหัว แม้ว่าจะปิดหูเอาไว้ก็ตาม

 

- การรับรู้แรงหรือความรู้สึกกดดันในศีรษะและบนใบหน้า

 

- การได้ยินเสียงดังจากทิศทางต่างๆ

 

- หูอื้อ / สูญเสียการได้ยิน

 

- สูญเสียการทรงตัว ทำให้การเดินบกพร่อง

 

- การขาดการรับรู้ถึงความร้อน

 

 

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังไม่ตัดความเป็นไปได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น ปัจจัยทางจิตวิทยาและสภาพสังคม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนระบุว่า อาจเกิดจาก "อุปกรณ์ล้ำสมัยในการล้วงข้อมูลของสหรัฐฯ" ที่ใช้ในสถานทูตต่างๆ ทั่วโลก ที่เป็นสาเหตุของโรคประหลาดดังกล่าวก็เป็นได้ ซึ่งแน่นอนว่ากระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้

 

อ้างอิง:

- https://www.washingtonpost.com/.../what-is-havana.../

- https://www.straitstimes.com/.../unexplained-havana...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง