ผลโพลชี้ 'โดนัลด์ ทรัมป์' กำลังสูญเสีย ฐานเสียงในกลุ่มคนผิวขาว

วันนี้ (8ก.ย.63) ขณะที่การเลือกตั้งสหรัฐกำลังจะมาถึงในอีก 2 เดือนข้างหน้า ผลโพลจาก Reuters/Ipsos บ่งชี้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังสูญเสียฐานเสียงที่เป็นกลุ่มคนผิวขาวที่ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนสำคัญที่ทำให้ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 4 ปี ก่อน 

การสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันที่มีสิทธิเลือกตั้ง พบว่า ทรัมป์ ยังคงได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนผิวขาวที่ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ช่องว่างระหว่าง ทรัมป์ กับ โจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เริ่มแคบลงเรื่อยๆ โดย ในเดือนมีนาคม นั้น คนผิวขาวกลุ่มนี้ สนับสนุนทรัมป์ มากกว่า ไบเดน อยู่ประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์ แต่จากการสำรวจล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม พบว่า ทรัมป์ ได้รับเสียงสนับสนุน จากคนผิวขาวที่ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัย อยู่ที่ 46 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ไบเดน ได้รับการสนับสนุนอยู่ที่ 34 เปอร์เซ็นต์ 

เห็นได้ว่า ช่องว่างในกลุ่มฐานเสียงสำคัญของทรัมป์ มีมากกว่า ไบเดน เหลือเพียง 12 เปอร์เซ็นต์ และสถานการณ์ของทรัมป์อาจย่ำแย่กว่านี้ หาก รัฐบาลสหรัฐไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 ที่ควบคู่มากับ วิกฤตเศรษฐกิจ ได้ดีพอในช่วงเวลาที่เหลือ   

ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เชื้อสายแอฟริกัน- อเมริกัน 69 เปอร์เซ็นต์  และ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเชื้อสายฮิสปานิก 61 เปอร์เซ็นต์ ยืนยันว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งคนสองกลุ่มนี้ เป็นฐานเสียงสำคัญของโจ ไบเดน ที่ต้องการเรียกร้องความเท่าเทียมกันในสังคม 

ผลโพลของจาก Reuters/Ipsos ชี้ว่า โดยรวมแล้วโจ ไบเดน มีคะแนนนำหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ฐานเสียงจากคนผิวขาวที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัย เริ่มเอนเอียงจากทรัมป์ มายังไบเดน มากขึ้นเรื่อยๆ และในทางกลับกัน เป็นเรื่องยาก ที่ ทรัมป์ จะสามารถดึงคะแนนเสียงจากกลุ่ม  เชื้อสายแอฟริกัน- อเมริกัน และ กลุ่มเชื้อสายฮิสปานิก มาจากเดโมแครตได้ 

ถ้ามองจากโพล โจ ไบเดน น่าจะได้ชัยชนะในการเลือกประธานาธิบดี แต่ต้องไม่ลืมว่า การทำโพลในยุคนี้เป็นเรื่องยาก เพราะในการเลือกตั้งสหรัฐเมื่อ 4 ปีก่อน ผลโพลส่วนใหญ่ก็ชี้ว่า ฮิลลารี่ คลินตัน จะได้รับชัยชนะ แต่สุดท้ายแล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี