สุดช้ำ! ประกาศขายตา-ไต ยกครอบครัว หลังโดนยึดบ้าน-ที่ดิน เพราะเซ็นค้ำให้ภรรยาเพื่อนที่เป็นตร.
อุบลราชธานี – พนักงานจ้างตำแหน่งผู้ช่วยนักทรัพยากรบุคคล องค์การบริหารส่วนตำบลเจียด อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี วัย 48 ไว้ใจเพื่อนซึ่งเป็นตำรวจ ไปค้ำประกันรถแทรกเตอร์ให้ภรรยา สุดท้ายถูกฟ้องยึดบ้านที่ดิน ขายทอดตลาด ประกาศขายดวงตาและไต หรืออวัยวะอะไรก็ได้ในร่างกาย ยกครอบครัว เพื่อหาเงินไถ่บ้านโรงเลี้ยงสัตว์ และที่ดิน 9 ไร่ 2 งาน 46 ตารางวา กำลังจะถูกขายทอดตลาด,ทั้งครอบครัวออกเดินเท้าจากบ้านที่ อ.เขมราฐ ระยะทางกว่า 100 ก.ม.เพื่อไปร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 8 ต.ขามป้อม อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี มีการติดป้ายไวนิลประกาศขาย ตา ไต ยกครอบครัว ไว้บริเวณหน้าบ้าน จึงได้เข้าไปสอบถามนายรักษ์เทวา คะพิมพ์อุดมลาภ อายุ 48 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นพนักงานจ้าง อบต.เจียด อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากไปค้ำประกันรถแทรกเตอร์ ยี่ห้อ ยันม่าร์ มูลค่ากว่า 860,725 บาท ให้กับภรรยาของเพื่อนสนิทคนหนึ่งซึ่งเป็นตำรวจ สังกัด สภ.นาตาล จ.อุบลราชธานี แล้วถูกบริษัทไฟแนนท์ฟ้องร้อง ล่าสุดสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานี จะทำการยึดที่ดินและบ้านที่อยู่อาศัยกับครอบครัวในปัจจุบันขายทอดตลาด เพราะภรรยาเพื่อนคนที่ซื้อรถรถแทรกเตอร์ คันดังกล่าวไปไม่ยอมส่งค่างวดและก็ไม่รับผิดชอบ ทำให้ตนเองตกเป็นจำเลยที่ 2 ในฐานะคนค้ำประกัน และถูกฟ้องยึดทรัพย์แทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้าวันนี้(14 ต.ค.)นายรักษ์เทวา คะพิมพ์อุดมลาภ พร้อมภรรยาและลูก 2 คนได้เดินเท้าฝ่าสายฝนเพื่อจะเดินทางเข้าจังหวัดอุบลฯท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาดักรอให้กำลังใจตลอดเส้นทาง
โดยนายรักษ์เทวา คะพิมพ์อุดมลาภ อายุ 48 ปี เล่าว่า ตนทำงานเป็นพนักงานจ้าง ตำแหน่งผู้ช่วยนักทรัพยากรบุคคล องค์การบริหารส่วนตำบลเจียด อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี และเป็นนักจัดรายการวิทยุ รู้จักกับ ด.ต.มานิตย์ ทิพระษาหาร ปัจจุบันเป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.นาตาล ซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ มีอะไรก็จะพึ่งพาอาศัยกันตลอด เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2557 เพื่อนคนดังกล่าวก็มาขอให้ตนไปช่วยค้ำประกันรถแทรกเตอร์ ยี่ห้อ ยันม่าร์ ให้ภรรยาคือนางจุไรรัตน์ ทิพระษาหาร ซึ่งด้วยความที่คิดว่าเป็นเพื่อนสนิทไว้ใจกันและเห็นว่าเพื่อนมีการงานทำที่มั่นคงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเพื่อนก็ยังรับปากว่าจะไม่ทำให้เดือดร้อนแน่นอน จึงได้ตอบตกลง เพื่อไปค้ำประกันซื้อรถแทรกเตอร์ มูลค่า 800,000 บาท ที่ จ.อุบลราชธานี
ต่อมาเวลาผ่านไป 2 ปี ก็มีหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานี ส่งมาที่บ้านว่าตนเองตกเป็นจำเลยที่ 2 กรณีที่ค้ำประกันซื้อรถแทรกเตอร์และถูกบริษัทฟ้องร้อง พอติดต่อสอบถามไปยังเพื่อนก็บอกว่าศาลได้ไกล่เกลี่ยและรับว่าจะรับผิดชอบตามสัญญาก็ไม่ปฏิบัติตาม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2559 ศาลได้มีคำพิพากษาให้นางจุไรรัตน์ ทิพระษาหาร จำเลยที่ 1 คืนรถแทรกเตอร์และชำระค่าเสื่อมสภาพให้กับบริษัท แต่ก็ไม่ยอมนำรถไปคืนจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งปี 2563 ได้มีหมายจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานี โดยในหมายระบุว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดที่ดิน 9 ไร่ 2 งาน 46 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านที่ตนอาศัยอยู่กับครอบครัว เพื่อประกาศขายทอดตลาด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศขายทอดตลาดของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุบลฯ โดยประกาศขายมาแล้ว 2 นัดแต่ยังไม่มีคนประมูล และกำหนดนัดต่อไปวันที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้
นายรักษ์เทวาเล่าอีกว่าตนเองรู้สึกทุกข์ใจมาก บ้านและที่ดินต้องมาถูกประกาศถูกยึดขายทอดตลาด กลัวจะไม่มีบ้านให้ลูกอยู่ ปัจจุบันบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน มีนายรักษ์เทวา ภรรยา และลูกชาย 2 คน ดังนั้นตนจึงตัดสินใจประกาศขาย ตา ไต หรือ อวัยวะส่วนใดก็ได้ของร่างกายที่ต้องการ ยกครอบครัว เพื่อแลกกับเงิน 860,725 บาท จะนำไปซื้อบ้านคืนและวันนี้ทั้งครอบครัวจะออกเดินเท้าจากบ้านที่ อ.เขมราฐ ระยะทางกว่า 100 ก.ม.ไปร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบล ที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อขอความช่วยเหลือ และอาจจะรอพบท่านนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางมาอุบลฯในวันที่ 15 ต.ค.นี้