ทั่วโลกติดเชื้อโควิดทะลุ 30 ล้าน ยอดเสียชีวิตใกล้ 1 ล้าน
วันนี้ ( 18 ก.ย. 63 )สหรัฐ, อินเดียและบราซิล ยังคงเป็น 3 ประเทศที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต โดยอินเดียมีผู้ติดเชื้อพุ่งแซงหน้าบราซิลขึ้นเป็นที่ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ แต่ผู้เสียชีวิตยังตามหลังสหรัฐและบราซิล
ซึ่งสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในโลก ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ติดเชื้อทั่วประเทศ อยู่ที่ 6,672,222 ราย และเสียชีวิต 197,590 ราย
กระทรวงสาธารณสุขบราซิล แถลงเมื่อวันพุธว่า บราซิลมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36,820 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งรวมทั้งผู้เสียชีวิต 987 ราย จนถึงขณะนี้ บราซิลมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศแล้ว 4,455,386 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 134,936 ราย
อินเดีย รายงานมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 90,123 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง และเสียชีวิตเพิ่มอีก 1,290 ราย ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มเป็น 5,118,253 ราย รวมทั้งผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 83,198 ราย เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงกว่า 5 ล้านราย เป็นชาติที่ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ
ขณะเดียวกัน หลายประเทศทั่วยุโรปตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอีก หลังจากการระบาดเริ่มชะลอ โดยมีฝรั่งเศสกลับมาระบาดหนักที่สุด โดยฝรั่งเศสยืนยันมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,784 รายในช่วง 24 ชั่วโมง สูงสุดในวันเดียวเป็นครั้งที่ 3 ของประเทศตั้งแต่เริ่มต้นการระบาด ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 454,266 ราย และเสียชีวิต 31,103 ราย
สหราชอาญาจักร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 3,991 รายเมื่อวันพุธ ดันตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเป็น 384,083 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 20 ราย รวมเป็น 41,794 ราย
ส่วนในสเปน ผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 625,651 ราย หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 4,728 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 30,405 ราย โดยกรุงมาดริด เมืองหลวงของประเทศ เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในการระบาดระลอก 2 จะมีการบังคับใช้มาตรการล็อคดาวน์ในหลายพื้นที่ที่มีไวรัสระหว่างอย่างรวดเร็วจากช่วงสุดสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ประกาศเพิ่มมาตรการคุมเข้มตามความจำเป็นด้วย
ด้านอิสราเอล ประกาศล็อคดาวน์ประเทศนาน 3 สัปดาห์ เริ่มในช่วงบ่ายวันนี้ (ศุกร์) ก่อนเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของชาวยิว เนื่องจากไวรัสระบาดอย่างรวดเร็ว โดยอิสราเอลมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 175,256 ราย และเสียชีวิต 1,169 ราย ซึ่งอัตรายการเสียชีวิตยังอยู่ในระดับต่ำ
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline