รีเซต

จับตาเลือกซ่อม สนาม'เมืองคอน' ปชป.VSพปชร.

จับตาเลือกซ่อม สนาม'เมืองคอน' ปชป.VSพปชร.
มติชน
4 มีนาคม 2564 ( 13:15 )
66

การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 3 นครศรีธรรมราช ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคมนี้ กำลังจะชี้สถานการณ์ทางการเมืองของพื้นที่ว่าพร้อมจะรับการเปลี่ยนแปลง หรือพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ ประกอบด้วย 4 อำเภอ คือ อ.ชะอวด จุฬาภรณ์ เฉลิมพระเกียรติ และพระพรหม

 

สืบเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พ้นจากตำแหน่ง กรณีต้องคำพิพากษาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษาคือวันที่ 28 สิงหาคา 2563 จากคดีร่วมกระทำผิดทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ปี 2557

 

แกนนำ ปชป.หลายคนออกมายืนยันว่าจะต้องรักษาฐานที่มั่นนี้ไว้ให้ได้ และเตือนไปถึงพรรคใหญ่ร่วมรัฐบาลให้รู้จักคำว่า “มารยาททางการเมือง” โดยเน้นไปที่ “พลังประชารัฐ” ไม่ควรส่งใครลงมาแข่งกันเอง

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ชี้ให้เห็นว่า ถ้า ปชป.ได้เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะไม่ส่งใครลงตัดคะแนนกับพรรคร่วมรัฐบาล

 

ขณะที่พรรคภูมิใจไทยที่ไม่ใช่ตัวลุ้นเข้าวินแต่ก็พร้อมหลีกทางให้ ส่วน พปชร.หาได้คิดเช่นนั้น ยังมีมติที่ประชุมพรรคออกมา ตัดสินใจให้ อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ กรอกใบสมัครลงท้าชนกับ พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ น้องชาย เทพไท ทำให้สนามเลือกตั้งซ่อมเขต 3 เมืองคอนเพิ่มอุณหภูมิความร้อนแรงขึ้นมาทันที พปชร.เชื่อมั่นเหมือนกันว่า วินาทีนี้มีโอกาสลุ้นที่จะได้ปักธงชนะ เหมือนที่สนามเลือกตั้งในเดือนมีนาคมปี 2562 เกิดขึ้นเหนือความคาดหมายมาแล้ว ผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร.คว้าชัยชนะมาได้ 13 เขตเลือกตั้ง รวมเสียงโหวตกว่า 1 ล้านเสียง คิดเป็นร้อยละ 22.29

 

ครั้งนั้น พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผอ.ศูนย์ประสานงานพรรค พปชร.แถลงออกมาว่า สาเหตุที่พรรคได้รับคะแนนไว้วางใจเพราะประชาชนมีความเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชอบนโยบายของพรรคที่สามารถทำได้ ประชาชนในภาคใต้ต้องการเปลี่ยนแปลง ให้มีการแข่งขันการทำงานและเชื่อมั่นในระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย เพื่อให้ตัดสินใจเลือกรัฐบาล

 

เห็นได้ว่า ประชาชนก็พอใจการทำงานของรัฐบาลเช่นกัน

ที่สำคัญ ไม่ว่าผลการนับคะแนนเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ออกมาอย่างไร พปชร.ไม่มีอะไรต้องเสีย ขณะที่ ปชป.รักษาพื้นที่ไว้ได้ก็ถือว่าเสมอตัว แต่ถ้าเกิดเพลี่ยงพล้ำขึ้นมา จะส่งผลสะเทือนทันที และยังเกิด “รอยร้าว” ระหว่างพรรคข้างเคียง แม้จะอยู่ด้วยกันต่อคงมองหน้ากันไม่ติด เหมือน “ซ่อนมีดในรอยยิ้ม”
ลองมาดูกัน ผู้สมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช ในโค้งสุดท้ายใครมีลุ้น หรือจะมีตัวสอดแทรกขึ้นมายืนแถวหน้าได้หรือไม่

 

หมายเลข 1 สราวุฒิ สุวรรณรัตน์ พรรคกล้า ตลอดที่ผ่านมา กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคดูแลผู้สมัครรายนี้อย่างดี ถือเป็นการนำร่องของพรรคที่ส่งคนลงสมัคร ส.ส.เป็นครั้งแรก เป็นการชิมลางในสนามใหญ่ กรณ์หวังให้สราวุฒิเป็นกล้าพันธุ์ใหม่ที่ทนแรงเบียดกับคู่แข่งขัน ทั้งความใหม่ เป็นผู้สมัครป้ายแดงของ สราวุฒิ ไม่ใช่อุปสรรค แต่การแสดงออก การบอกกล่าวนโยบาย การขยันลงพื้นที่เข้าไปทุกตรอกทุกซอกซอยที่ทำอยู่ถือเป็น “ทุน” บนหน้าตักที่คู่แข่งขันไม่ควรประมาทมากกว่า

 

สราวุฒิ สลัดคราบจากนักธุรกิจค้าจิวเวลรีส่งออกต่างประเทศ พื้นเพเป็นคนนครศรีธรรมราช วันหนึ่งเมื่อธุรกิจที่ทำไว้ยืนได้อย่างดีแล้ว จึงอยากกลับมาทำความฝันที่วางไว้คือการเป็นนักการเมืองเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ขับเคลื่อนไปได้ ประเทศจะพัฒนาได้นั้นพื้นฐานของประเทศต้องมั่นคงเสียก่อน เครื่องมือที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดีที่สุด คือการเมืองที่ดีและทันสมัย

 

หมายเลข 2 ว่าที่ ร.ต.อภิรัฐ รัตนพันธุ์ พรรคเสรีรวมไทย เป็นอีกคนที่ใช้ลูกขยันเดินเกาะติดทุกประตูบ้าน ตลาด ร้านค้า ชุมชน เป็นชาวนครศรีธรรมราชโดยกำเนิด ประสบความสำเร็จในอาชีพทนายความ ก่อนหันเหเข้าสนามการเมือง พ่ายแพ้เลือกตั้งใหญ่ปี 2562 ในเขต 4 ของนครศรีธรรมราช ครั้งนี้ถูกจับมาสมัครในเขต 3 โดยย้อนไปเกือบ 13 ปีก่อน เคยชิงนายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสงมาแล้ว ยิ่งได้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมเคียงข้างเดินหาเสียงด้วยในหลายครั้ง แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในสนามการเมือง แต่ก็ใจสู้ทุกครั้งไม่ท้อถอย

 

หมายเลข 3 พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ “เทพไท” พี่ชายประคองไว้ ส่งให้คณะกรรมการบริหาร ปชป.ดูตัวจนไว้วางใจ สู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อพี่ชายอย่างเดียว แต่เพื่อศักดิ์ศรีของพรรค ปชป. ที่จะ “แพ้ไม่ได้” แม้ว่าฐานคะแนนนิยมจะแข็งแรงกว่าผู้สมัครคู่แข่งขันทุกคน แต่ ปชป.ก็ไม่วางใจ ได้แกนนำระดับบิ๊กของพรรคทยอยเดินทางมาช่วยหาเสียงในโค้งสุดท้าย “จุรินทร์” ยอมหาเวลานอนค้างคืนที่นครศรีฯถึง 3 วัน 2 คืน เพื่อช่วยลูกทีมเต็มที่

 

พงศ์สินธุ์ บอกว่า มีความตั้งใจ ทำงาน และคุ้นเคยกับพื้นที่ อยู่ในการเมืองมานานพอสมควร พร้อมมั่นใจในพรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งพี่ชาย (เทพไท) ที่มีความผูกพันกับเขต 3 การแข่งขันหนนี้หวังว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจเหมือนเดิม

 

หมายเลข 4 อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ เลือกตั้งใหญ่หนก่อน แพ้ เทพไท ประมาณ 4,000 คะแนนเศษ ล่าสุดเชื่อว่ามีคะแนนนิยมตีตื้นขึ้นมาเป็นลำดับ หลังได้ อนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะ บินตรงมาช่วยหาเสียงชนิดจัดเต็ม มั่นใจว่า “อาญาสิทธิ์” จะชนะการเลือกตั้ง อาศัยการทำงานของรัฐบาลที่เข้าตาประชาชน โดยเฉพาะนโยบายประชานิยมมากมาย ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการชิมช้อปใช้ ฯลฯ จนถึงการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน การคืนโฉนดที่ดินทำกิน การแก้ปัญหาระบบน้ำเพื่อการเกษตร

 

ในวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 พื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 นครศรีธรรมราช แดนการเมืองที่เร่าร้อน ไกลปืนเที่ยง พื้นที่โดยรอบถูกปกคลุมด้วยป่าพรุควนเคร็ง วิถีชีวิตแบบบ้านๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ขณะที่คนหนุ่มสาวและวัยทำงานอยู่ในเมือง

 

เมื่อส่องกล้องและจับตา ผลชนะ-แพ้ ไม่ได้จบแค่เขต 3 เท่านั้น แต่จะมีคำถามและผลข้างเคียงตามมาอีกมากมาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง