"กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ" เร่งเครื่องคืนสิทธิบุคคลไรัสัญชาติ ลั่นไม่มีเรียกรับเงิน

เมื่อวันที่ 7 เม.ย..ส.ดวงดาว เกียรติพิศาลสกุล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการช่วยเหลือบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้สัญชาติว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการช่วยเหลือบุคคลที่มีโดยมีเป้าหมาย 120,000 ราย หลังจากมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการช่วยเหลือบุคคลผู้มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ ระหว่าง กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมการปกครอง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยMOUฉบับนี้เป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานเหล่านี้มีความสะดวกในการแลกเปลี่ยนหรือส่งต่อข้อมูลจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่ร่วมลงนาม MOU อย่างมาก
น.ส.ดวงดาวฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการผ่านมา ได้ลงพื้นที่พบกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อชี้แจงแนวทางและบทบาทที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนฯ ได้อย่างไรบ้าง ซึ่งพบผู้ว่าฯ ไปแล้ว 11 จังหวัด หลังจากนั้นจะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเตรียมความพร้อม โดยเราจะมีวิทยากร จากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้ และจะพูดถึงแนวทางปฏิบัติ ทั้งเรื่องการคัดกรองเอกสาร การจำแนกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ มีการประชุม เชิงปฏิบัติการ ไปแล้ว 13 ครั้ง และอยู่ระหว่างการดำเนินการในอีกหลายจังหวัด โดยหลังจากนี้ก็จะมีการลงพื้นที่เพื่อคัดกรองและจำแนกกลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักทะเบียนอำเภอ เพื่อจะได้มีเอกสารหลักฐานหรือข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของสำนักทะเบียนอำเภอ เพื่อให้คนที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายได้รับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนต่อไป
“ฝากถึงกลุ่มที่อยากเข้าร่วมโครงการกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เรากำลังเร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาสำหรับบุคคลที่มีปัญหาทางสถานะทางทะเบียนฯ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลไร้รัฐ ไร้สัญชาติ โดยมุ่งหวังให้ทุกคนได้รับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพตามที่กฎหมายกำหนด แต่ในการดำเนินการที่ผ่านมา มีกลุ่มที่แอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งขอประชาสัมพันธ์ว่าทุกกระบวนการของเราโปร่งใสไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่หลักเกณฑ์กฎหมายกำหนด ดังนั้นหากประสบปัญหาถูกเรียกรับผลประโยชน์ สามารถติดต่อสายด่วนกระทรวงยุติธรรม 1111 กด77 ฟรี 24 ชั่วโมง เน้นอย่าว่าเราไม่มีการเรียกรับใดๆทั้งสิ้น”