วิเคราะห์ 3 ปัจจัยที่จะชี้ชะตาราคา บิทคอยน์ ในสัปดาห์นี้

วันนี้( 4 พ.ค.65) บิทคับ ได้ประเมินภาพรวม ราคา บิทคอยน์  ในสัปดาห์นี้ ว่า ราคา บิทคอยน์ รีบาวน์จากแนวรับของกรอบขาขึ้นในวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา สะท้อนว่ายังมีกลุ่มนักลงทุนที่ทยอยสะสมแถวแนวรับ (Buy the Dip) โดยภาพจะชัดเจนยิ่งขึ้นหากแรงซื้อสามารถพาราคาทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันแบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA-20) ณ ระดับราคา $39,824 (~1,374,000 บาท)

หากราคาสามารถยืนเหนือเส้น EMA-20 ได้ โมเมนตัมบวกจะกลับมาและราคาจะมีโอกาสกลับไปทดสอบแนวต้านที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันแบบง่าย(SMA-50) ณ ราคา $41,970 (~1,448,000 บาท) และแนวต้านถัดไปที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแบบง่าย (SMA-200) ณ ราคา $47,154 (~1,627,000 บาท)ตามลําดับ

ในทางกลับกัน หากราคาปรับตัวลงมาหลุดเส้น EMA-20 ราคาจะกลับสู่ภาวะตลาดขาลง และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวหลุดกรอบขาขึ้นดังกล่าวลงมาทดสอบแนวรับถัดไปที่ราคา $34,300 (~1,183,000 บาท) และ $32,917(~1,136,000 บาท) ตามลําดับ 

โดยในสัปดาห์นี้ มีปัจจัยที่บรรดานักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญให้ความสนใจ  ได้แก่ 

การที่ Fed จะเป็นตัวกําหนดชะตากรรมของตลาด บิทคอยน์ หรือ คริปโทฯในสัปดาห์นี้  ซึ่งปัจจัยมหภาคจะเป็นปัจจัยหลักที่กําหนดทิศทางของตลาดในสัปดาห์นี้จากความไม่แน่นอนของผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่รออยู่  โดยสิ่งที่ตลาดกังวลตอนนี้คือการลดสภาพคล่องของธนาคารกลางสหัรฐฯ ว่าจะรุนแรงและรวดเร็วแค่ไหน รวมถึงตลาดได้ตอบรับปัจจัยดังกล่าวไป

แล้วหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ ๆ ในสัปดาห์นี้คือความผันผวน โดยหากดูจากสถิติย้อนหลัง 6 เดือนที่ผ่านมา ทุก ๆ อีเว้นท์ของการลดสภาพคล่อง ตลาดคริปโทฯ เองมักจะโดนผลกระทบไปด้วย

โดยการประชุมของเหล่าคณะกรรมการนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ(FOMC Meeting) จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 3 - 4 พ.ค. นี้

ขณะเดียวกัน การที่ธนาคารยักษ์ใหญ่ในอาร์เจนตินาจะเปิดให้ลูกค้าซื้อขายคริปโทฯ ได้  โดยธนาคาร Banco Galicia และธนาคาร Brubank ซึ่งเป็น 2 ธนาคารยักษ์ใหญ่ในประเทศอาร์เจนตินา ได้ประกาศให้ลูกค้าสามารถซื้อคริปโทฯ ผ่านบริการของธนาคารได้

รายงานจาก Bloomberg เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าชาวอาร์เจนตินากว่า 60% มีความต้องการที่จะเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโทฯ มากขึ้น จึงเป็นตัวเร่งให้เหล่าธนาคารตัดสินใจยอมรับการซื้อ-ขายคริปโทฯ

โดย  Ignacio Carballo จากสถาบันวิจัย Americas Market Intelligenceได้ทําการทวีตยืนยันเมื่อวันที่ 3 พ.ค. โดยเขาได้แคปหน้าจอส่วนนึงของแอปฯ BancoGalicia Online มา และได้เห็นสกุลดิจิทัลที่แอปฯ ดังกล่าวรองรับคือ Bitcoin (BTC),Ether (ETH), USD Coin (USDC) และ Ripple (XRP)

ด้าน นักลงทุนรายใหญ่ เสนอใช้ Dogecoinแก้ปัญหาโฆษณาคริปโทฯ บน Twitter  นั่นก็คือ Mark Cuban นักลงทุนระดับพันล้าน เสนอการแก้ไขปัญหาการแอบอ้างใช้ชื่อผู้อื่นบนทวิตเตอร์ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเลเยอร์ 2 ที่เรียกว่า Optimistic Rollup บนDogecoin (DOGE) โดยมีหลักการทํางานคือ ทุก ๆ การโพสต์บน Twitter ที่โดยปกติทําได้ไม่จํากัดจํานวนครั้ง ทุกคนจะต้องวางเหรียญ DOGE หนึ่งเหรียญ (ราว 0.13 ดอลลาร์) เป็นหลักประกัน จากนั้นหากมีใครร้องเรียนและยืนยันได้ว่าโพสต์นั้นเป็นสแปม ผู้ที่รายงานโพสต์จะได้รับ DOGE ของผู้ส่งสแปมไป อีกทั้งผู้ที่เคยส่งสแปมจะต้องวาง 100 DOGEเป็นหลักประกันหากต้องการจะสร้างโพสต์เพิ่มในครั้งถัดไป ในทางกลับกัน หากตรวจสอบแล้วพบว่าโพสต์ที่ถูกร้องเรียนไม่ใช่สแปม ผู้ที่ร้องเรียนจะเป็นฝ่ายสูญเสีย DOGE แทน

อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีรายงานว่า ยอดบัญชีซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีลดลง แต่ทางด้านนายไบรอัน อาร์มสตรอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทคอยน์เบส โกลบอล อิงค์ คาดกาณณ์ว่า ภายใน 10-20 ปี จะมีผู้ใช้หรือทดลองใช้สกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีมากถึง 1 พันล้านราย เพิ่มขึ้นจากประมาณ 200 ล้านรายในปัจจุบัน

นอกจากนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานด้วยว่า ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโทฯ เกิดความผันผวน โดยหลังจากที่ราคาบิตคอยน์พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว มูลค่าก็ลดลงมาประมาณ 17% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้ 

แต่ก็ยังมีปัจจัยกดดัน จากความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในสหรัฐที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของคริปโทฯ และความชัดเจนด้านกฎระเบียบในวงการคริปโทฯ เกิดขึ้นช้ากว่าสมัยที่ออกกฎกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตมาก 

แน่นอนว่า บิทคอยน์ หรือตลาดคริปโทฯ มีความผันผวนสูง การที่ตลาดเติบโตได้รวดเร็วมากๆ จึงเป็นข้อควรระวังของบรรดานักลงทุน โดยเฉพาะรายย่อย ที่จะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน 

อ้างอิง : https://multimedia.newsletter.bitkub.com/

ภาพประกอบ : AFP