รีเซต

ช่วยสำเร็จ “พระติดถ้ำ” พาออกจากถ้ำพระไทรงาม ได้แล้ว ย้อนเหตุการณ์ภารกิจช่วยเหลือครั้งนี้!!

ช่วยสำเร็จ “พระติดถ้ำ” พาออกจากถ้ำพระไทรงาม ได้แล้ว  ย้อนเหตุการณ์ภารกิจช่วยเหลือครั้งนี้!!
Ingonn
7 เมษายน 2564 ( 12:51 )
249

เหตุการณ์ลุ้นระทึก พระติดถ้ำ ภายในสถานปฏิบัติธรรม ถ้ำพระไทรงาม ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ที่หลายคนเฝ้าจับตาว่า จะคล้ายเหตุการณ์ 13 หมูป่า หรือไม่ ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ในช่วงเวลาประมาณ 11.40 น. ทีมกู้ภัย คณะนักดำน้ำ ได้ช่วยเหลือ พระมานัส เขมโก อายุ 46 ปี พระนักปฏิบัติธรรม จากจังหวัดนครสวรรค์ ที่ได้เดินทางมาธุดงค์ที่ถ้ำไทรงาม ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2564 แล้วไม่สามารถออกมาจากถ้ำได้ เนื่องจากฝนตกและน้ำท่วมขังปิดทางออกไว้ โดยทีมกู้ภัยดำน้ำ ได้ช่วยพระมานัส ออกมาได้สำเร็จ ด้วยการดำน้ำออกมา  และส่งตัวเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไป 

 

เปิดไทม์ไลน์ช่วยเหลือพระติดถ้ำ

 

วันที่ 3 เม.ย. 64 
มีพระภิกษุ 2 รูปเข้าไปเข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานภายในสถานปฏิบัติธรรมถ้ำพระไทรงาม หมู่ 8 บ้านดงงูใหม่ ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก

 

วันที่ 4 เม.ย. 64 
พระภิกษุ 1 รูป ออกมาจากถ้ำ แต่อีก 1 รูป คือ พระอาจารย์มนัส อายุ 46 ปี ยังคงอยู่วิปัสสนากรรมฐานภายในถ้ำต่อ โดยเตรียมอาหารไว้ 3 วัน

 

วันที่ 6 เม.ย. 64 
ชาวบ้านแจ้ง พระอาจารย์มนัส น่าจะติดอยู่ในถ้ำ เพราะปกติจะออกมาบิณฑบาตทุกวัน ชาวบ้านไม่เห็นมา 2 วันแล้ว (วันที่ 4 และ 5 เม.ย.) หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ นายอำเภอได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมจัดกำลังประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อำเภอ, ทหาร, ตำรวจ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ปภ., เจ้าหน้าที่อุทยานฯ, สาธารณสุข และ กู้ภัย โดยจัดส่งเจ้าหน้าที่และยุทโธปกรณ์ เข้าให้การช่วยเหลือ

 

เวลา 16.30-17.30 น.
ได้จัดชุดสำรวจ 16 นายและชุดประดาน้ำ 2 นายเข้าสำรวจพื้นที่ ทำให้ทราบข้อมูลว่า จุดที่คาดว่าพระอาจารย์มนัสติดอยู่จะลึกจากปากถ้ำ เข้าไปประมาณ 600 เมตร ถ้ำลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งมีทางออกอีกด้าน แต่ปืนลำบากมาก รวมถึงเส้นทางเข้าถ้ำ จะมีระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร (เพิ่มขึ้นตามปริมาณฝนตก) และมีจุดแคบที่สุดที่ยังไม่สามารถผ่านได้ ต้องดำน้ำผ่าน 

 

เวลา 18.00 น. 
นายอำเภอเนินมะปราง ได้สั่งการยุติการค้นหาก่อน ซึ่งอุปสรรคข้างในคือความมืดและน้ำไหลแรง ขณะนี้กำลังรอนักประดาน้ำชุดแรกที่เข้าไปออกมาสรุปสถานที่ พร้อมทั้งสั่งให้นักประดาน้ำถอนตัวออกมาจากถ้ำก่อน และขอรับการสนับสนุนจากนักประดาน้ำกู้ภัยผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิปอเต๊กตึ้ง และ ฮุก31 ที่เคยปฏิบัติการร่วมช่วยเหลือที่ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย มาร่วมช่วยเหลือพระมนัส ขณะเดียวกัน ยังหาวิธีอื่น คือ ปภ.เขต9 พิษณุโลก ได้จัดเตรียมให้เจ้าหน้าที่ นำเครื่องสูบน้ำเตรียมจะใช้ตามแผนสูบน้ำออกจากถ้ำ เพื่อลดระดับน้ำและหาหนทางช่วยเหลือให้เร็วที่สุด แต่ในพื้นที่บริเวณถ้ำพระไทรงาม ยังคงมีฝนตกหนักอีกครั้ง

 

เวลา 19.00 น. 
พล.ต.ทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผบ.กองพลพัฒนาที่ 3 ได้นำเอากำลังและเครื่องมือยุทโธปกรณ์ มาสนับสนุนและร่วมวางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือพระมนัส โดยวางแผน สำรวจกำลังคนและหาข้อมูล เพื่อหาวิธีช่วยเหลือ ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอุทยานและหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก และทหารจาก กองพลพัฒนาที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 ส่งชุดเข้าไปสำรวจพื้นที่ภายในถ้ำอย่างละเอียด เพื่อเอาไว้ใช้เป็นข้อมูล ให้นักดำน้ำกู้ภัยผู้เชี่ยวชาญ ได้ใช้ในการวางแผนช่วยเหลือพระมนัสได้อย่างปลอดภัยทั้งหน่วยกู้ภัยและพระมนัส ในวันรุ่งขึ้นต่อไป


เวลา 20.15 น. 
เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหา เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และมีการปรับแผน สำหรับแผนการปฏิบัติ คือจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ เพื่อดำเนินการในเช้าวันที่ 7 เม.ย. 64 เตรียมการติดตั้งแสงสว่าง/ระบบสื่อสาร จัดระเบียบการจราจร และ การแถลงข่าว โดยนายปารเมษ แสงสว่าง นายอำเภอเนินมะปราง


วันที่ 7 เม.ย. 64
นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้หลังจากได้ส่งทีมนักประดาน้ำจากมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและเคยไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เดินทางเข้าไปในปากถ้ำจำนวน 1 ชุด โดยเดินเท้าจากปากถ้ำไปจนถึงจุดข้อต่อคอห่านใช้ระยะทางประมาณ 400 เมตร จากนั้นจะเป็นช่วงที่คอห่านจุดนี้มีน้ำท่วมขัง ซึ่งมีความกว้างประมาณ 15 เมตร แต่ระดับน้ำคาดว่าจะสูงประมาณ 4 เมตร โดยใช้นักประดาน้ำดำผ่านจุดคอห่านไป ซึ่งถ้าพ้นจากจุดนี้ไปได้ คาดว่าจะเป็นพื้นที่โล่งอีกประมาณ 20 เมตร และเชื่อว่าพระมนัสน่าจะอยู่ในพื้นที่เนินสูงจุดปลอดภัยตรงนั้น ซึ่งอาจจะสามารถพบตัวพระมนัสได้ และใช้วิธีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกจากคอห่านให้ได้มากที่สุด เท่าที่พระมนัสจะสามารถเดินผ่านมาได้ 

 

เวลา 08.30 น. 
เจ้าหน้าที่เริ่มการค้นหาอีกครั้ง โดยแบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ซึ่งทีมงานชุดที่ 1 ทีมนักประดาน้ำ 17 นาย ดำมุดน้ำเข้าไปสำรวจพื้นที่ภายในถ้ำ และทีมงานชุดที่ 2 ทีมกู้ภัยที่สูงเดินหน้าสำรวจโพรงพร้อมกับนำอุปกรณ์ที่คาดว่าจะโรยตัวลงไปได้

 

เวลา 10.25 น.
หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน โพสต์ภาพถ้ำพร้อมแคปชั่นว่า “มีข่าวดี”

 

เปิดนาทีกู้ภัยช่วยชีวิตได้สำเร็จ 

 

เวลา 11.00 น.


เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำที่เข้าไปทำการค้นหา ได้พบพระมนัสแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า พระอาจารย์มนัสมีอาการไข้เล็กน้อย เมื่อประเมินสถานการณ์แล้ว ผู้ว่าฯจึงสั่งการให้เริ่มปฏิบัติการกู้ภัยนำตัวพระมานัสออกมา โดยใช้วิธีให้ทีมนักประดาน้ำชุดที่ 2 นำถังออกซิเจน พร้อมสกูบ้า เข้าไปให้พระมานัส อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม ทีมกู้ภัยจึงได้เริ่มปฏิบัติการ โดยให้พระมานัสคาบสกูบ้า โดยวางแถวให้นักประดาน้ำ 2 นายนำหน้า ตามด้วยพระมานัส และนักประดาน้ำอีก 2 นาย ประกบท้าย จนกระทั่งเวลา 11.20 น. ได้รับรายงานว่าชุดนักประดาน้ำพร้อมด้วยพระมานัส ได้เดินทางมาถึงปากถ้ำแล้ว ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ต่างปรบมือ เฮลั่น ดังสนั่น เพราะนั่นหมายความว่าภารกิจใกล้สำเร็จแล้ว

 

เวลา 11.30 น.

ทุกคนได้พบหน้าชุดนักประดาน้ำ และพระมานัส เขมโก ปฏิบัติการกู้ชีพ-กู้ภัย สำเร็จลุล่วง จากนั้นได้นำตัวพระมานัส ขึ้นรถโรงพยาบาลเนินมะปรางเพื่อตรวจร่างกาย และชีพจร พบว่าพระมานัส ยังมีร่างกายที่แข็งแรงดี ความดันปกติ มีไข้เล็กน้อย จึงนำส่งรักษาตัวต่อที่ โรงพยาบาลเนินมะปราง

 

 

 


พระที่เข้าไปพร้อมกับพระอาจารย์มนัส


ด้าน พระอาจารย์ธงชัย อาภาปโร เปิดเผยว่า ตนและพระมนัสเข้าไปภาวนากรรมฐานในถ้ำพระไทรงาม ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่อยู่คนละโถงถ้ำกัน โดยพระอาจารย์มนัสอยู่ตรงถ้ำด้านใน ส่วนตนอยู่ตรงข้ามด้านนอก คืนวันที่ 3 เริ่มมีระดับน้ำภายในถ้ำเพิ่มขึ้น และในที่สุดน้ำเริ่มปิดปากถ้ำเข้าไปหาพระอาจารย์มนัส

 

พระอาจารย์ธงชัย กล่าวต่อว่า ตนได้ออกมาและพยายามหาทางช่วยเหลือ โดยนำท่อพีวีซีไปเพื่อจะทำกาลักน้ำระบายน้ำออกจากถ้ำ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตนเคยเข้าไปปฏิบัติธรรมภายในถ้ำพระไทรงามอยู่บ่อยครั้ง ด้วยตนพักอยู่สำนักสงฆ์ใกล้ ๆ ส่วนพระอาจารย์มนัสที่ติดค้างอยู่ในถ้ำนั้น ครั้งนี้เข้าไปเป็นครั้งที่ 2 แล้ว เชื่อว่าน่าจะยังปลอดภัยดี เพราะเตรียมอาหารและเกลือแร่เข้าไปด้วย แต่ก็ยังเป็นห่วงสุขภาพของท่าน

 

 

พระติดถ้ำ ซ้ำรอยหมูป่า?


จากกรณีทีมฟุตบอลเยาวชน หมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน เข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ในขณะนั้นมีฝนตกหนัก และทำให้น้ำฝนไหลเอ่อเข้าท่วมถ้ำตามเส้นทางและปิดทางออก ไว้ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่10 กรกฎาคม 2561 รวมระยะเวลา 17 วัน 4 ชั่วโมง 29 นาที จนได้รับการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

 

การปฏิบัติการค้นหา
การทำงานของเจ้าหน้าที่จะต้องใช้เครื่องสูบน้ำ สูบน้ำที่ท่วมขังออกมาจากในถ้ำและใช้นักประดาน้ำดำผ่านจุดน้ำท่วมไปหาผู้ที่ติดภายในถ้ำ ซึ่งปริมาณฝนที่ตกหนักเป็นปัจจัยหลักในการเข้าไปช่วยเหลือ หากยิ่งฝนตกมาก การดำเนินการช่วยเหลือจะยิ่งมีความยาก แต่ถ้ำหลวงมีความซับซ้อนในการค้นหาเนื่องจากลักษณะถ้ำมีทั้งโถง มีเหว และโพรงน้ำไหลผ่านจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสำรวจโครงสร้างถ้ำหลายจุดทั้งบนถ้ำ ภายในถ้ำ และบริเวณปากถ้ำ

 

ลักษณะของถ้ำ
ถ้ำพระไทรงาม จ.พิษณุโลก อยู่ในลำดับที่ 19 ของ ถ้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ระยะทาง 3,026 เมตร ขณะที่ถ้ำหลวง อยู่อันดับที่ 5 ด้วยความยาวทั้งหมด 10,316 เมตร 

 

ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จะมีปากถ้ำสูง โถงถ้ำแรกเปิดกว้างและมีระดับพื้นดินต่ำกว่าปากถ้ำมาก เนื่องจากเป็นร่องทางน้ำที่ไหลออกจากถ้ำ โดยมีร่องน้ำผ่านระหว่างโถงที่ 1 และทางขวามือของร่องน้ำจะเป็นโนนดินที่สูงขึ้น มีร่องรอยหลุมยุบ ส่วนโถงที่ 2 ต่อจากโถงที่ 1 จะมีร่องรอยหินถล่มด้านซ้ายมือ เมื่อสิ้นสุดบันไดจากบริเวณปากถ้ำจะเป็นทางเดินดินสั้น ๆ แล้วจึงเป็นขั้นบันไดที่เทด้วยปูนซีเมนต์จำนวน 5-6 ขั้น ยกระดับขึ้นทอดเข้าสู่ความยาวของตัวถ้ำ โดยที่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะท่วมภายในถ้ำ

 

 

ขณะที่ถ้ำพระไทรงามเป็นถ้ำน้ำลอด จากระยะของปากถ้ำเดินเข้าไปประมาณ 400 เมตร จะเจอลักษณะคล้ายคอห่านหรือท้องช้างที่เป็นแอ่งกระทะสูงประมาณ 4 เมตร มีหินงอกหินย้อยเหมือนถ้ำทั่วไป ต้องปืนลงไปจากด้านบนก่อน ผ่านทำนบหินปูน ที่มีลักษณะคล้ายทำนบหรือเขื่อนที่กั้นน้ำไว้ หรือคล้ายกับนาขั้นบันได 

 


การค้นพบ
ทีมหมูป่ารอเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณบนเนินนมสาว โดยอยู่ห่างจากปากถ้ำ 4 กม. ส่วนพระอาจารย์มนัสอยู่เนินสูงลึกจากปากถ้ำไปราว 400 เมตร ซึ่งอยู่ในจุดที่คาดว่าจะพบทั้งสองเคส แต่ระยะทางการพบทีมหมูป่าจะอยู่ลึกกว่าด้วยสภาพแวดล้อมของถ้ำและน้ำท่วมจากฝนที่ตกติดกัน ทำให้ทีมหมูป่าต้องเข้าไปลึกจากปากถ้ำ

 

ระยะเวลาการติดภายในถ้ำ
ทีมหมูป่าใช้ระยะเวลาปฏิบัติภารกิจทั้งสิ้น 17 วัน รวมการช่วยเหลือออกจากถ้ำ (23 มิ.ย 61 -10 ก.ค. 61)
ส่วนพระอาจารย์มนัสรวมระยะเวลาจากการแจ้งเหตุของชาวบ้าน ประมาณ 2 วัน รวมการช่วยเหลือออกจากถ้ำ (6 เม.ย 64 – 7 เม.ย. 64)

 

 


ข้อมูลจาก cave & caving Thailand, ข่าวสด, มติชน, TNN, กรุงเทพธุรกิจ


ขอบคุณภาพจาก หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! พบแล้วพระติดถ้ำ-ร่างกายอ่อนเพลียมีไข้

วางแผนช่วยพระติดถ้ำพระไทรงาม-ข่าวดีระดับน้ำลดฝนหยุดตก

เตรียมช่วย พระติดถ้ำ อีกครั้ง 8 โมงพรุ่งนี้ เผยด้านในน้ำไหลเชี่ยว นักประดาน้ำมุดลงไปไม่ได้

ยุติการค้นหา! พระติดถ้ำ "พระไทรงาม" นาน 3 วัน วางแผนต่อพรุ่งนี้

เร่งช่วย "พระธุดงค์" ติดถ้ำพระไทรงาม น้ำท่วมออกมาไม่ได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง