โควิด-19 กระตุ้นความต้องการหีบห่อยืดอายุอาหาร “เอกา"เผยขายเพิ่ม100%
นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร เปิดเผยว่า ภายใต้สภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุอาหาร นับเป็นสิ่งจำเป็นและมีบทบาทสำคัญในการช่วยเยียวยาและบรรเทาความตึงเครียดของผู้บริโภคทั่วโลกที่ต้องการจัดเก็บอาหารให้ยาวนานขึ้นในช่วงกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังช่วยลดความถี่ในการออกจากที่พักไปยังสถานที่เสี่ยงติดเชื้อได้เป็นอย่างดี มีผลทำให้ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารทั่วโลกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ โดยยอดขายของบริษัทเติบโตขึ้นกว่าเท่าตัว
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 เห็นได้ชัดว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปโดยหันมาใส่ใจและเน้นเรื่องความปลอดภัยของอาหารมากขึ้น มีการงดเว้นอาหารสดที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น สลัดต่างๆ อาหารญี่ปุ่น หรือแม้แต่อาหารที่ปรุงสุกมาแล้ว ต้องอุ่นซ้ำ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อาหารพร้อมรับประทานในบรรจุภัณฑ์ของบริษัทเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าเชื้ออาหารภายใต้แรงดัน ที่อุณหภูมิ 110-120 องศาเซลเซียส หรือการผ่านการฆ่าเชื้อด้วยกระบวนการความร้อน (Hot Filled) ที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส เป็นอาหารปลอดเชื้อ มีความปลอดภัยสูง ไม่มีการปนเปื้อนทั้งเชื้อโรคและสารกันบูด
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมมากด้วยศักยภาพในด้านกำลังการผลิต จากการเข้าซื้อกิจการของ พริ้นท์แพค เอเชีย ในปีก่อน ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้นำในการผลิตบรรจุภัณฑ์นวัตกรรมยืดอายุอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีโรงงานและสำนักงานในประเทศจีนและอินเดีย รวมกำลังการผลิตปัจจุบันสูงเกือบ 2,700 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งศักยภาพของบริษัทฯ ที่มีทำให้มั่นใจว่าจะสามารถผลิตบรรจุภัณฑ์ยืดอาหารได้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกที่สูงขึ้นในขณะนี้ โดยปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมโต 100 %
ปัจจุบัน บริษัทขยายการดำเนินธุรกิจไปในตลาดสำคัญทั่วภูมิภาค อาทิ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ และสหรัฐ เป็นต้น โดยมีสัดส่วนยอดขายส่งออก 95% และยอดขายในประเทศ 5% ปีนี้บริษัทฯมีแผนเจาะตลาดผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในประเทศให้มากขึ้น เพื่อช่วยผลักดันและส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ก้าวสู่การทำธุรกิจที่สามารถแข่งขันได้บนเวทีระดับโลก
“แม้สัดส่วนรายได้จากการเพิ่มฐานลูกค้าเอสเอ็มอีจะไม่มาก แต่การได้ช่วยผู้ประกอบการอาหารได้มีโอกาสทางธุรกิจ สร้างโซลูชั่น และเพิ่มมูลค่าสินค้าที่สูงขึ้น ถือเป็นภาระกิจที่ เอกา โกลบอล ให้ความสำคัญ ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างฐานให้เอสเอ็มอีไทยให้แข็งแกร่ง” นายชัยวัฒน์ กล่าว