อย. แนะนำหลักการซื้อผ้าอนามัยอย่างปลอดภัย

นายแพทย์รุ่งฤทัย มวลประสิทธิ์พร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ผ้าอนามัยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับซับเลือดประจำเดือน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญต่อสุขอนามัยของสตรี การเลือกใช้ผ้าอนามัยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน จะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและการระคายเคือง เพิ่มความมั่นใจในการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยผ้าอนามัย (Sanitary pad) และผ้าอนามัยชนิดสอด (Tampon) จัดเป็นเครื่องสำอางตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ผู้ผลิตและผู้นำเข้าจะต้องยื่นจดแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ไม่พบเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย พ.ศ. 2559 และมีฉลากถูกต้อง ครบถ้วน ตามประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่อง ฉลากของเครื่องสำอาง พ.ศ. 2562

อย. ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลผ้าอนามัย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย โดยดำเนินการเฝ้าระวังและตรวจสอบคุณภาพของผ้าอนามัยชนิดสอดที่วางจำหน่ายในท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง จากการเก็บตัวอย่างตรวจวิเคราะห์เชื้อจุลินทรีย์ ผลการตรวจพบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งนี้ เพื่อความมั่นใจของผู้บริโภค อย. ขอแนะนำหลักการซื้อผ้าอนามัยอย่างปลอดภัย ดังนี้ 

1. ตรวจสอบเลขที่ใบรับจดแจ้งจาก อย. 

2. อ่านฉลากอย่างละเอียดก่อนซื้อ โดยต้องมีข้อมูลครบถ้วนและเป็นภาษาไทยที่ชัดเจน 

3. บรรจุภัณฑ์ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ชำรุดหรือมีการปนเปื้อน 

4. เลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ หรือช่องทางออนไลน์ที่ได้รับอนุญาต 

5. หลีกเลี่ยงผ้าอนามัยที่มีกลิ่นหรือสีผิดปกติ 

6. เลือกขนาดหรือประเภทของผ้าอนามัยให้เหมาะสมกับปริมาณประจำเดือนและกิจกรรมของตนเอง

การเปลี่ยนผ้าอนามัยอย่างถูกสุขลักษณะสามารถทำได้โดยล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกครั้ง และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4 - 6 ชั่วโมง หรือเร็วกว่านั้นหากมีประจำเดือนมาก หรือเมื่อรู้สึกอับชื้น กรณีผ้าอนามัยชนิดสอด ไม่ควรใส่ไว้นานเกิน 8 ชั่วโมง และขณะใช้ หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูงเฉียบพลัน คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือมีผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง ให้นำผ้าอนามัยออกและรีบพบแพทย์ทันที สำหรับผ้าอนามัยที่ใช้แล้ว ให้ทิ้งในถังขยะติดเชื้อที่มีฝาปิดมิดชิด