คอลัมน์ People In Focus : รายัน ออว์รัม เด็กชายที่ทำคนทั้งโลกใจสลาย

รายัน ออว์รัม เด็กชายชาวโมร็อกโกวัย 5 ขวบ ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลพลัดตกบ่อน้ำเล็ก ๆที่พ่อกำลังซ่อมแซม แต่ที่น่าตกใจก็คือบ่อดังกล่าวลึกกว่า 30 เมตร

ชะตากรรมของเด็กชายรายันกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกในทันที ทุกสายตาเอาใจช่วยเด็กชายรายันที่ได้รับบาดเจ็บอยูที่ก้นบ่อนานถึง 5 วันให้สู้เพื่อมีชีวิตรอด ทว่าเด็กชายผู้โชคร้ายเสียชีวิตลงก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะขุดเข้าไปถึงตัว

ข่าวนี้นำความโศกเศร้าไปยังคนทั่วโลก ผู้นำระดับโลกหลายคนส่งข้อความแสดงความเสียใจถึงครอบครัวของรายัน ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 แห่งโมร็อกโก, นายกรัฐมนตรี อาซิซ อัคฮันเนาช์ แห่งโมร็อกโก, เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส หรือแม้แต่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก

รายัน ตกลงไปในบ่อน้ำใกล้บ้าน ที่มีปากบ่อกว้างเพียง 45 เซ็นติเมตร แต่มีความลึกถึง 32 เมตรตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เหตุเกิดในเมืองอิกราน ตอนเหนือของประเทศ

ทีมกู้ภัยระดมกำลังนับร้อยๆ คน พร้อมด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่วางแผนช่วยเด็กชายจากก้นบ่อโดยใช้การขุดเปิดหน้าดินจากเชิงเขาและขุดอุโมงค์ในแนวนอนเข้าไปที่ก้นบ่อโดยตรง เนื่องจากหากขุดจากปากบ่อมีโอกาสที่ดินจะถล่มได้เนื่องจากเนื้อดินเป็นดินทรายที่ไม่มั่นคงนัก

รายละเอียดภารกิจช่วยเหลือกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก โลกออนไลน์ต่างเอาใจช่วย กำเนิดเป็นแฮชแท็ก #SaveRayan ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ขณะที่ไลฟ์สตรีมสดภารกิจช่วยเหลือบางคลิปมีคนดูพุ่งสูงถึง 100,000 คน

ระหว่างภารกิจมีการส่งกล้องลงไปสังเกตอาการของรายันเป็นระยะมีการหย่อนน้ำ, อาหาร รวมถึงอ็อกซิเจนลงไปที่ก้นบ่อ จนเวลาล่วงเลยไปถึง 5 วัน

ช่วงสุดท้ายเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้ท่อคอนกรีตขนาดใหญ่มาช่วยและขุดอุโมงค์ด้วยมือเปล่าเพื่อป้องกันดินถล่ม

ในที่สุดในช่วงดึกของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าถึงตัวรายันได้สำเร็จท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของชาวบ้านหลายร้อยคนที่มารอให้กำลังใจในพื้นที่

รายันถูกส่งตัวขึ้นรถพยายาล ไม่มีใครรู้ว่ารายันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จนกระทั่งพ่อและแม่ของรายัน ได้รับสายจากกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 ประมุขของประเทศที่ทรงต่อสายแสดงความเสียใจกับพ่อและแม่ของเด็กชายรายันด้วยพระองค์เอง

เรื่องราวนี้แม้จะเป็นเรื่องเศร้าและเป็นอุทาหรณ์สำคัญกับชาวบ้านในหมู่บ้านที่ขุดบ่อน้ำลักษณะเดียวกันเพื่อนำน้ำมาทำการเกษตร

แต่เรื่องราวนี้ก็เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นความร่วมไม้ร่วมมือกันของมนุษย์ที่พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ประสบความทุกข์ยาก แม้เรื่องราวจะจบลงด้วยโศกนาฏกรรมก็ตามที