ห้องทดลองปัญญาประดิษฐ์ ทำงานทดลองเร็วกว่ามนุษย์ 100 เท่า !
ปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทกับมนุษย์ในมากขึ้นในเกือบทุกสาขาอาชีพ ไม่เว้นแม้กระทั่งอาชีพนักวิจัย โดยห้องทดลองที่มีชื่อเรียกว่า ‘เอ-แลป (A-Lab)’ ซึ่งควบคุมการทำงานทั้งหมดด้วยหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) มันจึงสามารถทำงานทดลองได้เร็วกว่านักวิจัยที่เป็นมนุษย์ถึง 100 เท่า
ลักษณะและการทำงานของห้องทดลองเอ-แลป (A-Lab)
สำหรับห้องทดลองดังกล่าวมีพื้นที่ประมาณ 55 ตารางเมตร และมีการติดตั้งแขนหุ่นยนต์จำนวน 3 แขน อยู่ภายใน รวมถึงเตาเผาอีก 8 เตา
โดยแขนหุ่นยนต์จะทำหน้าที่ชั่งตวงและผสมสารต่าง ๆ เพื่อให้ได้ตัวอย่างของวัสดุใหม่ หลังจากนั้นแขนหุ่นยนต์จะนำตัวอย่างไปให้ความร้อนในเตาเผาที่สามารถทำอุณหภูมิสูงสุดได้ถึง 1,200 องศาเซลเซียส
ต่อมาแขนหุ่นยนต์จะนำตัวอย่างออกมาจากเตาเผาเพื่อใส่ในสไลด์ แล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนและรังสีเอกซ์เรย์ ซึ่งปัญญาประดิษฐ์จะทำการวิเคราะห์ผลที่ได้และทำการทดลองซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ตัวอย่างวัสดุใหม่ที่ต้องการ
ปัญหาของนักวิจัยด้านวัสดุศาสตร์
เป็นเวลานานมาแล้วที่นักวิจัยด้านวัสดุศาสตร์สามารถคิดค้นสูตรทางเคมีเพื่อสร้างวัสดุใหม่ได้มากมาย แต่ปัญหาคือการทดสอบสูตรเหล่านั้นใช้เวลานาน ในขณะที่เอ-แลปสามารถทำหน้าที่นี้ได้ไวกว่านักวิจัยที่เป็นมนุษย์ประมาณ 50-100 เท่า เนื่องจากเอ-แลปไม่จำเป็นต้องพักผ่อนเหมือนมนุษย์ ส่งผลให้มันสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ซึ่งทำให้นักวิจัยที่เป็นมนุษย์สามารถนำเวลาไปใช้คิดค้นสูตรทางเคมีเพื่อสร้างวัสดุใหม่ ๆ ได้
โดยเอ-แลปเป็นผลงานของทีมนักวิจัยจากห้องปฎิบัติการณ์ลอว์เรนซ์ เบิร์กลีย์ (Lawrence Berkeley National Laboratory) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อทำหน้าที่ทดลองผสมสารเคมีตามสูตรที่นักวิจัยได้คิดค้นไว้
นอกจากนี้ ทีมนักวิจัยกำลังพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อขยายขอบเขตความสามารถให้กับเอ-แลป เช่น ความสามารถในการเติมสต็อกสารตั้งต้นและการติดตั้งอุปกรณ์วิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลและภาพจาก Berkeley Lab