SIMATขายHSTรับ175ล. จับตาแผนใช้เงินหนุนฐาน
ทันหุ้น – SIMAT ขายหุ้น HST ให้ OTO กวาดเงินเข้ากระเป๋า 175 ล้านบาท คาดดีลจบสิ้นเดือนตุลาคมนี้ เกาะติดแผนใช้เงินอัพฐาน แย้มเล็งรุกประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเดินหน้าดัน HST ลงกระดานเทรด จ่อยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.ภายในปีนี้ ด้านธุรกิจ Fiber Optic ลุยกดต้นทุนลด
นายบุญเลิศ เอี้ยวพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติให้บริษัทขายหุ้นสามัญในบริษัทย่อยของบริษัท ได้แก่ บริษัท ฮินซิซึ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ฮินซิซึ) หรือ HST จำนวน 100,000 หุ้น หรือคิด 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในฮินซิซึ
** ยังถือหุ้น HST 60%
ทั้งนี้ภายหลังจากการขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทจะยังถือหุ้นในฮินซิซึเป็นจำนวน 600,000 หุ้น หรือคิด 60% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในฮินซิซึ บริษัท (ในฐานะผู้ขาย) ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น จำนวน 100,000 หุ้น หรือคิด 10% ของ
จำนวนหุ้นทั้งหมดในฮินชิซึ ในราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้น 175,000,000 บาท ในวันที่ 30 กันยายน 2564 กับผู้ซื้อ คือ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO โดยเบื้องต้น บริษัทคาดว่า การซื้อขายหุ้นจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2564
ทั้งนี้ HST ประกอบธุรกิจด้านผลิตงานซิลค์สกรีน เนมเพลต เบเบล สติกเกอร์ และจัดหาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้าให้กับกลุ่มลูกค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเป็นผู้ผลิตสติกเกอร์ บาเบล เนมเพลต หรือวัตถุดิบสำหรับการทำสติกเกอร์ และพิมพ์สีลงบนพลาสติก พิมพ์สีลงบนกระดาษเรซินสังเคราะห์ด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้า ปัจจุบัน HST มีการถือหุ้นในบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่บริษัท ไซแมท เลเบล จำกัด โดยถือหุ้น 99.99% และถือหุ้นในบริษัท ฮินซิตซุ พรีซิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 75.01%
** เกาะติดแผนใช้เงิน
สำหรับประเด็นที่น่าติดตามต่อจากนี้ หลังจาก SIMAT ได้เงินจากการขายหุ้นฮินซิซึ แล้ว จะนำเงินไปขยายกิจการ SIMAT ในรูปแบบใด เพื่อสร้างฐานการเติบโตให้แข็งแกร่งมากขึ้น ขณะเดียวกันผลประกอบการ SIMAT มีแนวโน้มเติบโตดี โดย 6 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรแล้ว 49.20 ล้านบาท เทียบกับปี 2563 มีกำไรอยู่ที่ 40.78 ล้านบาท เชื่อว่าการนำเงินหลังขายหุ้น HST ครั้งนี้ไปขยายธุรกิจ จะหนุนผลประกอบการ SIMAT ในอนาคตให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบัน SIMAT ดำเนินธุรกิจด้าน IT Solution ครบวงจร โดยงานวิศวกรรม IT ปัจจุบัน SIMAT มีโครงการ Universal Service Obligation (USO) ในระยะที่ 2 มูลค่า 1.47 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการบริการจัดการและบำรุงรักษาในระยะเวลาต่อเนื่อง 5 ปี โดยมีมูลค่าสัญญารวม 5 ปี มากกว่า 1,200 ล้านบาท เฉลี่ยการรับรู้ต่อปีประมาณ 270 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรก 2564 รับรู้ไปแล้ว 120-130 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เป็นปีแรก สนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง จากรายได้ประจำ (Recurring Income) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
** ธุรกิจเทิร์นอะราวด์
ส่วนให้บริการด้าน Internet ความเร็วสูง (Fiber Optic) ภายใต้ชื่อ SINET ได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ บริษัท เอฟโอที เอ็มเอสโอ จำกัด (FOT) บริษัทในเครือเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวี อันดับ 1 ของประเทศ คาดธุรกิจดังกล่าวจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ หลังจากร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ และลดต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางธุรกิจให้ดีขึ้น ทั้งนี้คาดเห็นการปรับลดต้นทุนการดำเนินงานลงมาอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 4/2564 รวมถึงการปรับกลยุทธ์การสร้างรายได้เพิ่มไปยังฐานลูกค้าที่เป็น B2B เช่น กลุ่มโรงแรม โรงพยาบาล หอพัก คอนโดมิเนียม ที่การแข่งขันไม่สูงและยังมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ทั่วถึง
ขณะที่บริษัท ฮินซิซึ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ HST บริษัทย่อยของ SIMAT มีแผนขยายฐาน HST ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยวางแผนจะเข้าซื้อกิจการ หรือขยายโรงงานเพิ่มเติม อีกทั้ง SIMAT อยู่ระหว่างผลักดัน HST เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยวางแผนจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ภายในปีนี้ ส่วนการเข้าจดทะเบียนจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)