รีเซต

เทียบฟอร์ม 2 กองทุน DIF-JASIF ในมุมมอง "โนมูระ พัฒนสิน"

เทียบฟอร์ม 2 กองทุน DIF-JASIF ในมุมมอง "โนมูระ พัฒนสิน"
ทันหุ้น
29 กันยายน 2564 ( 14:56 )
2K
เทียบฟอร์ม 2 กองทุน DIF-JASIF ในมุมมอง "โนมูระ พัฒนสิน"

ข่าววันนี้ ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน ออกบทวิเคราะห์กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF โดยทั้งสองกองทุนคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลในระดับที่สูง จึงแนะนำซื้อ

 

ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลดำเนินงานไตรมาส 3/64 ของ DIF จะมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,929 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 0.5% จากไตรมาส 2/64 แต่หากตัดรายการพิเศษ คาดว่าจะมีกำไรปกติที่ 3,159 ล้านบาท เติบโต 0.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และใกล้เคียงกับไตรมาส 2/64  โดยกำไรที่เติบโตมาจากรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าเสาโทรคมนาคมรายปี และค่าใช้จ่ายการเงินลดลงจากการทยอยคืนเงินต้น ชดเชยกับค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 

 

นอกจากนี้คาดว่า DIF จะจ่ายเงินปันผลงวดไตรมาส 3/64 อัตราหน่วยละ 0.261 บาท หรือ yield ประมาณ 2% แนวโน้มไตรมาส 4/64 คาดกำไรจากการลงทุน(ไม่รวมรายการพิเศษ) คาดเติบโตเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน และใกล้เคียงกับไตรมาส 3/64 รวมทั้งคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในอัตราหน่วยละ 0.261 บาท ทำให้ทั้งปี 2564 คาดจ่ายเงินปันผลรวมในอัตราหุ้นละ 1.04 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 8% และดีกว่าฝ่ายวิจัยคาดไว้ 2% 

 

โดยยังคงแนะนำซื้อ DIF เนื่องจากมองว่าให้อัตราผลตอบแทนรวม สูงราว 18% ระยะสั้นมี Sentiment บวกจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้กองทุนมีความน่าสนใจในแง่อัตราผลตอบแทนเงินสูงกว่าผลตอบแทนของเงินฝาก โดยให้ราคาเป้าหมายของปี 2565 ที่ 14.20 บาทต่อหน่วย 

 

 

ส่วน JASIF คาดผลดำเนินงานไตรมาส 3/64 จะมีกำไรจากากรลงทุนสุทธิ 2,077 ล้านบาท ลดลง 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.1% จากไตรมาส 2/64หากหักการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนรายไตรมาส คาดว่าจะมีผลกำไรปกติที่ 2,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.1%จากไตรมาส 2/64 โดยกำไรเติบโตเล็กน้อย เนื่องจากคาดว่าค่าธรรมเนียมบริหารกองทุนลดลง และค่าใช้จ่ายการเงินลดลงจากการทยอยคืนเงินกู้ระยะยาว 

 

นอกจากนี้คาดว่ากองทุน JASIF จะจ่ายเงินปันผลงวดไตรมาส 3/64 ในอัตราหน่วยละ 0.24 บาท หรือ yield ที่ 2.4% ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/64 คาดกำไรจากการลงทุน(ไม่รวมรายการพิเศษ) คาดลดลง จากช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาส 3/64 เนื่องจากคาดว่ากองทุนจะบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มในการเอาสาย OFC ลงใต้ดิน

 

อย่างไรก็ตาม คาดว่ากองทุน JASIF จะยังสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยละ 0.24 บาท ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มปรับกำไรปี 2564-2566 ของ JASIF ลง 2-3% สะท้อนผลกระทบสุทธิของค่าใช้จ่ายในการเอาสาย OFC ลงใต้ดิน ตามประมาณการกำไรใหม่ จึงคาดว่ากองทุน JASIF จะสามารถจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในอัตรา 0.96 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลต่อปี 9.5% และให้อัตราผลตอบแทนรวมสูงราว 18% 

 

โดยแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมายของปี 2565 อยู่ที่ 11 บาทต่อหน่วย 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง