รัสเซียเจอโควิด-19 พุ่งไม่หยุด ป่วยมากกว่า 3 หมื่นคนติดกัน 4 วัน แต่รัฐบาลยังเดินหน้ายกเลิกล็อกดาวน์

ยอดผู้เสียชีวิต พุ่งแตะระดับ 1,002 คนเมื่อวันเสาร์ (16 ตุลาคม) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนลดลงมา 5 ราย เหลือ 997 รายเมื่อวันอาทิตย์ (18 ตุลาคม) ซึ่งก็ยังนับว่าเป็นระดับที่ทำสถิติใหม่ให้กับรัสเซียอยู่เช่นกัน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมที่กว่า 223,000 คน ซึ่งนับว่าสูงสะสมเป็นอันดับที่ 5 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐฯ, บราซิล, อินเดีย และเม็กซิโก

แต่จากสถิติขององค์กร Rosstat พบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด แต่ไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาว่าเป็นสาเหตุหลักนั้น มีมากกว่านั้นอีกมาก ซึ่งหากรวมแล้วอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากถึง 418,000 คน

ทั้งนี้ อัตราผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ในรัสเซียเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา

◾◾◾

🔴 ขอพนักงานเกษียณอายุกลับมาช่วย

เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวโทษการฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างล่าช้า ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่ทะยานขึ้นไม่หยุด ส่งผลให้กระทรวงสาธารณสุขต้องออกมาร้องขอให้เจ้าหน้าที่ บุคลากรการแพทย์ที่เกษียณอายุแล้ว ช่วยกลับมาทำงานเพื่อการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน

ไม่เพียงเท่านี้ รัสเซียยังกระตุ้นให้ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการแจกล็อตเตอรรี, โบนัส หรือแรงจูงใจอื่น ๆ แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนยังไม่ยอมฉีดวัคซีนอยู่อีกมากคือ "ความลังเลใจเรื่องวัคซีน" เนื่องจากมีกระแสข่าวลวงออกมามากมาย ทำลายความพยายามของเจ้าหน้าที่

ทางรัฐบาลรัสเซียพุ่งเป้าไปคนรัสเซียสมัครใจฉีดวัคซีนกันน้อยเกินไป โดยประชากรรัสเซียมี 146 ล้านคน แต่คนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม มีเพียง 45 ล้านคน คิดเป็น 30.7%

แต่คนเข้ารับวัคซีนในจำนวนนี้ ยังไม่พอ เพราะทางรองนายกรัฐมนตรีหญิง ทาเทียนา โกลิโควา (Tatyana Golikova) ซึ่งรับผิดชอบการรับมือกับไวรัสโควิด-19 มองว่า จำเป็นต้องฉีกวัคซีนให้ประชาชนราว 36 ล้านคน และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชนอีก 7 ล้านคนที่รับวัคซีนมาเกิน 6 เดือนแล้ว

◾◾◾

🔴 ทัศนคติผิด ๆ ของคนรัสเซีย

แผนที่วางไว้กับความจริงยังสวนทาง เพราะสื่อรายงานว่า หากดูคลินิกฉีดวัคซีนกรุงมอสโกของรัสเซีย มีคนเข้ามาฉีดวัคซีนเพียงวันละ 7 พันคนเท่านั้น ถือเป็นตัวเลขที่น้อยมาก ทำให้เกิดความกังวลสถานการณ์หลังจากนี้ว่ายอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้น และกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเสี่ยงป่วยหนัก และเสียชีวิตได้

สิ่งที่น่ากังวลที่นายแพทย์ Andrei TezHelnikov แห่งศูนย์วัคซีนมอสโก ยืนยันตรง ๆ คือ ทัศนคติอันตรายของคนที่เชื่อว่าไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน เพราะบางคนคิดว่าตัวเองติดไวรัสแล้ว ขณะที่อีกส่วนไม่เชื่อมั่นในวัคซีน

หากดูตามเนื้อผ้าจะเห็นว่า แผนฉีดวัคซีนของรัสเซียนั้นเดินช้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในโลกจริง ทั้ง ๆ ที่รัสเซียเองเป็นประเทศที่เผยความสำเร็จในการทดลองวัคซีนก่อนใครเพื่อน นั่นก็คือ Sputnik V วัคซีนรัสเซียผลิตเองเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

โดยวัคซีนยี่ห้อนี้ มีประสิทธิภาพในการต้านโควิด-19 สายพันธุ์ Delta ได้ราว 83% และลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ประมาณ 94%

แต่แม้ประสิทธิภาพต้านโควิดกลายพันธุ์ได้ วัคซีนตัวนี้ ยังไม่ได้รับไฟเขียวจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เนื่องจากยังต้องรอตรวจสอบขวดแก้วบรรจุวัคซีนเพิ่มเติม

นอกจาก Sputnik V แล้ว รัสเซียก็ยังมีวัคซีนตัวอื่น ๆ อีก ทั้ง EpiVacCorona (เอพิวัคโคโรนา ), Covivac (โควิแวค) และ CarviVac-Cov (คาร์นิแวค-คอฟ) ตัวสุดท้ายนี้เป็นวัคซีนตัวแรกของโลกที่ใช้ป้องกันโรคโควิด-19 ในสัตว์ที่เริ่มต้นผลิตแล้ว

◾◾◾

🔴 แม้ยอดพุ่ง แต่เดินหน้ายกเลิกล็อกดาวน์

แม้ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น ทำเนียบเครมลิน ได้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ลง หลังจากที่กระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ และทำลายคะแนนความนิยมของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อย่างมาก

แต่ในทางกลับกัน ได้ให้อำนาจการตัดสินใจดำเนินมาตรการต่าง ๆ ไปอยู่ที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาคเอง

ปัจจุบัน ยังมีบางภูมิภาค จากทั้งหมด 85 ภูมิภาค ที่จำกัดการทำอีเวนต์ขนาดใหญ่ และจำกัดการเข้าชมภาพยนตร์, ร้านอาหาร รวมถึงสถานที่อื่น ๆ ด้วย

แต่ในขณะเดียวกัน กรุงมอสโก, เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และอีกหลายเมืองใหญ่ พบว่าประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติแล้ว