ส่อแววเลื่อนเปิด "หัวหิน รีชาร์จ" 1 ต.ค. รับต่างชาติ หลังไม่ได้วัคซีนตามเป้า ฉีดไม่ถึง 10%
ข่าววันนี้ 20 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนการเปิดเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 1 ต.ค. 2564 เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิดครบโดสแล้วเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัว ตามโครงการหัวหิน รีชาร์จ (Hua Hin Recharge) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่และในภาพรวมของประเทศ โดยเมืองหัวหินเป็นพื้นที่นำร่องฉีดวัคซีนให้ผู้ที่ทำงานในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในเขตเทศบาลฯ ให้ได้ 100% และประชากรในเขตเทศบาลเมืองหัวหินให้ได้ 70% ภายในวันที่ 30 ก.ย. 2564
ซึ่งขณะนี้มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ทั้งในส่วนของวัคซีนที่ภาครัฐและวัคซีนที่ภาคเอกชนจัดหาไปแล้วไม่ถึง 10 ทำให้หลายฝ่ายต่างมีความกังวลว่าจะไม่สามารถเปิดเมืองหัวหินทันตามกำหนดเวลา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดอย่างต่อเนื่อง และประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับวัคซีนครบตามที่ได้ตั้งเป้าไว้
ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์ SME ไทย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คณะกรรมการโครงการหัวหิน รีชาร์จ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยไม่ค่อยดีนัก ส่วนหัวหินพร้อมไหมที่จะเปิดในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ต้องถามว่าภายในวันที่ 31 ส.ค. 64 เราจะได้วัคซีน 350,000 เข็มหรือไม่ ปัจจัยไม่ได้อยู่ที่คนหัวหินต้องการจะเปิดเมืองหรือไม่ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ว่าเราจะได้วัคซีนถึง 350,000 เข็มหรือไม่ ถ้าเราได้ไม่ถึงก็บอกได้เลยว่าเราเปิดเมืองไม่ได้
ดร.พรระวี กล่าวต่อว่า เวลาเราพูดถึงเมืองหัวหิน เราพูดแค่พื้นที่ 36 ตารางกิโลเมตรเศษไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือว่าประชากรที่อยู่หัวหิน หากดูตามทะเบียนบ้านมีประมาณ 66,000 คน แต่เรามีประชากรแฝงที่มาทำงานอยู่ในเขตหัวหินอีกเป็นจำนวนมาก ต้องยอมรับความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คือคนที่อยู่ อบต.หินเหล็กไฟ อยู่ ต.ทับใต้ อยู่ ต.หนองพลับ เราไปมาหาสู่กัน ตัวอย่างที่ผ่านมาโรงงานต่างๆ ก็ติดเชื้อจำนวนมาก ซึ่งชุมชนแถวนั้นจำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีน
"อยากวิงวอนรัฐบาล ถ้าเป็นไปได้อยากจะให้นำเข้าวัคซีน mRNA มาให้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าทั้งหมด รวมไปถึง อสม. ประธานชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการต่างๆ ถ้าเขามีวัคซีน เขาจะได้ลงไปอำนวยความสะดวกและลงไปช่วยประชาชนได้มากขึ้น" ดร.พรระวี กล่าว
ด้านนางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ กล่าวว่า อันดับแรกถ้าเราจะเปิดหัวหินภายในระยะเวลา 120 วัน ในวันที่ 1 ต.ค.ให้ได้นั้น จะต้องมีการควบคุมการระบาดให้ได้ก่อน อันดับที่ 2 คือต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราเปิดได้ก็เป็นผลดีต่อท้องถิ่นและนักธุรกิจ แต่ถ้าเราเปิดไม่ได้จริงๆ ในไตรมาสที่ 3 เดือน ต.ค. หรือ พ.ย. เราจะต้องมีแผนการในการทำงานเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของการจัดทำเอกสารปฏิบัติงาน (SOP) และใบรับรองในการเดินทางเข้าประเทศไทย (COE) เป็นแผนงานที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในบ้านเราได้แล้ว เราจะต้องปฏิบัติอย่างไร
"ตอนนี้ภาคเอกชนและหลายหน่วยงาน ตลอดจนทางผู้บริหารของเมืองชะอำและเมืองหัวหิน พวกเราได้ร่วมกันคิดแผนที่จะต้องทำเรื่องของการจัดทำเอกสารปฏิบัติงาน (SOP) ให้ครอบคลุม จะมาได้หรือไม่ได้ แผนอันนี้ก็ต้องทำขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและความปลอดภัยของประชาชนในท้องถิ่นของเรา" นางวาสนา กล่าว
ขณะที่นายประสงค์ กล่อมจิตต์ อายุ 48 ปี จักรยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับโครงการนี้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละหน่วยงานว่าจะร่วมมือกันพร้อมใจมีวินัยที่จะให้โครงการนี้ผ่านไปด้วยดีไหม ผลกระทบตอนนี้รายได้ลดลงมาก เศรษฐกิจก็ซบเซา ถ้ายังไม่มีวัคซีนหรือวัคซีนมาช้าก็จะทำให้ขาดความเชื่อมั่น อยากให้ภาครัฐกระจายวัคซีนมาถึงพวกเราโดยเร็วที่สุด
ส่วน น.ส.ชนะจิตต์ ปรางจันทร์ อายุ 53 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองหัวหิน กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านอย่างเรายังไม่มีความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันเลย วัคซีนก็ยังไม่ได้ฉีดทุกคน ถ้าเราเปิดให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ความปลอดภัยของเราก็ยังไม่มี อยากให้มีความพร้อมมากกว่านี้ อาจจะเลื่อนไปก่อนจนกว่าความพร้อมจะมีมากกว่านี้ แล้วค่อยเปิดจะดีกว่า ชาวบ้านที่อยู่นอกเขตเทศบาลอย่าง อบต. ยังไม่มีวัคซีนไปฉีดให้เขา หรือความช่วยเหลือก็ยังไม่มีเลย ชาวบ้านอยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น ต้องดิ้นรนหาทางกันเอาเอง คิดว่ายังไม่เห็นด้วยที่จะเปิด