ไต้หวันสลด! เอฟ 5 ดิ่งทะเลคร่านักบิน วิจารณ์ยับกองทัพ-สูญเสียซ้ำซาก
ไต้หวันสลด! - วันที่ 30 ต.ค. บลูมเบิร์กและ สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงข่าวความสูญเสียจากกรณี เครื่องบินขับไล่เอฟ 5 ของ กองทัพไต้หวัน ประสบเหตุตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก บริเวณนอกชายฝั่งภาคตะวันออกของเทศมณฑลไถตง ขณะฝึกบินเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 29 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น
แม้ร.อ.จู กวน เมิ่ง นักบินวัย 29 ปี สามารถดีดตัวออกจากเครื่องได้สำเร็จ แต่ก็บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตไม่กี่ชั่วโมงต่อมาระหว่างเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
เหตุดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสถกเถียงและตั้งคำถามถึงศักยภาพทางการทหารของไต้หวัน ภายหลังเพิ่งมีเหตุเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศไต้หวันตกและคร่าชีวิตนักบิน 2 นาย เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และอีกเหตุความสูญเสียครั้งใหญ่ของกองทัพเมื่อเฮลิคอปเตอร์รุ่นยูเอช-60 แบล็กฮอว์ค ดิ่งตกขณะพยายามลงจอดฉุกเฉินทางตอนใต้ของกรุงไทเปในเดือนม.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย รวมถึง พล.อ.อ.เฉิน อี้หมิง เสนาธิการทหารไต้หวัน
ทั้งนี้ เครื่องบินรบและเครื่องบินขับไล่ส่วนใหญ่ของกองทัพไต้หวันเป็นรุ่นเก่าที่ประจำการมานานหลายสิบปี โดยเครื่องบินขับไล่เอฟ 5 ประจำการตั้งแต่กลางทศวรรษ 1970 หรือเกือบ 50 ปี และเพราะสหรัฐอเมริกาเลิกผลิตรุ่นนี้ไปเมื่อปี 2532 จึงไม่มีอะไหล่และการซ่อมบำรุงที่ได้มาตรฐาน ปัจจุบันกองทัพไต้หวันยังใช้เครื่องบินขับไล่เอฟ 5 แต่เฉพาะในการฝึกบินเท่านั้นและมีแผนจะปลดประจำการในปี 2569
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามอนุมัตขายเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 ซี/ดี บล็อก 70 จำนวน 66 ลำ มูลค่ากว่า 240,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเสริมแสนยานุภาพกองทัพไต้หวันเมื่อเดือนส.ค.
และไม่นานมานี้ทางการสหรัฐอนุมัติก็ข้อเสนอขายอาวุธล็อตใหญ่แก่ไต้หวัน ประกอบด้วยขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศ ระบบจรวดหลายลำกล้อง และระบบกระเปาะลาดตระเวนติดตั้งเครื่องบินขับไล่ รวมมูลค่ากว่า 56,300 ล้านบาท
ท่ามกลางความไม่พอใจของรัฐบาลจีนที่อ้างสิทธิ์เหนือไต้หวันและมองว่าการซื้อขายอาววุธระหว่างสหรัฐ-ไต้หวันเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน