รีเซต

ไรเดอร์หัวร้อน สรุปม้วนเดียวจบ!

ไรเดอร์หัวร้อน สรุปม้วนเดียวจบ!
TeaC
10 ธันวาคม 2564 ( 17:03 )
293

ไรเดอร์หัวร้อน ถูกพูดถึงอย่างมากในสื่อสังคมออนไลน์ หลังมีผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ เจ้าของร้านอาหารในดอนโด ย่านตลิ่งชันถูกไรเดอร์หัวร้อน บุกใช้มีดแทงจนได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดรายการโหนกระแส ช่อง 3 ล้อมวงนั่งคุยประเด็นร้อนดังกล่าว นำคุยโดยคุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พร้อมคุณเมย์ ภีม ผู้เสียหาย พร้อมด้วยนายเกิดโชค เกษมวงศ์วิจิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ วันนี้สรุปกระแสร้อนแรงที่คนในสังคมให้ความสนใจอย่างมาก อาการหัวร้อน ลงมือทำร้ายร่างกาย ที่หวังไม่อยากให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

 

สรุปม้วนเดียวจบ! ปมไรเดอร์หัวร้อน 


1. มีผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์บนสังคมออนไลน์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยวันนั้นเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่คอนโด ย่านตลิ่งชั่น ได้รับออเดอร์จากลูกค้า ซึ่งถูกไรเดอร์จากแอพสั่งอาหารบุกเข้ามาในร้านและต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตรงเข้ามาหาเรื่องเจ้าของร้านอาหารชายหญิง ส่วนชนวนเหตุมาจากที่ไรเดอร์หัวร้อนรายนี้ ไม่พอใจที่ทางร้านไม่ยอมนำอาหารไปส่งให้กับไรเดอร์รายนี้ที่จอดรถอยู่ตรงจุดจอด อยู่ห่างจากร้านอาหารประมาณ 100 เมตร จนเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเจ้าของร้านอาหารในวันถัดมา 

 

2. ทั้งนี้ คุณเมย์ และคุณภีม ได้เล่าเหตุการณ์ผ่านรายการโหนกระแสถึงประเด็นดังกล่าวว่า ในวันนั้นไรเดอร์โทรศัพท์มาแจ้งว่า เจ็บขา ต้องการให้ร้านอาหารนำอาหารมาส่งที่จุดจอดรถ และทางร้านได้แจ้งกฎ ข้อระเบียบที่ทางนิติบุคคลคอนโดได้กำหนดให้ร้านอาหารปฏิบัติ โดยให้ไรเดอร์เข้ามารับอาหารที่ร้านอาหาร ซึ่งเป็นกฎนิติบุคคลที่ออกมาว่า ไม่ให้เขาขับเข้าไป ไรเดอร์ทุกคันทุกคนที่มารับอาหารต้องจอดบริเวณนี้เท่านั้น และต้องเดินเข้ามา ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเดินออกไป 

 

4. โดยคุณภัมได้เล่าต่อว่า ได้มีการพูดคุยกับทางไรเดอร์ว่า หากไม่สะดวกมารับ ทางร้านจะขอเปลี่ยนให้ไรเดอร์รายอื่นเข้ามารับอาหารแทน คือเจตนาผมต้องการแจ้งคอลเซ็นเตอร์ว่าท่านนี้เขามีอาการปวดขา ไม่สามารถเดินเข้ามาได้ ก็ให้คนใหม่มารับดีกว่า ไม่ได้ต้องการไปคอมเพลน หรือไปฟ้องให้เขาเสียหาย จุดนี้เองอาจเป็นไปได้ที่ไรเดอร์หัวร้อนรายนี้เกิดความไม่พอใจ จึงเข้ามาต่อว่าด้วยถอยคำหยาบคาย จนพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดต้องเข้ามาระงับเหตุ และอธิบายถึงกฎระเบียบในการรับส่งอาหาร จากนั้นไรเดอร์รายนี้ได้ออกจากร้านไป

 

5. คุณภีม เล่าต่อว่า ก่อนไรเดอร์หัวร้อนออกจากร้าน เขาทิ้งท้ายก่อนไปว่า ถ้าเขาโดนแบน หรือโดนปิดระบบจากต้นสังกัดเขาจะมาฆ่าให้ตาย แล้วก็ไป ตอนนั้นด้วยความตั้งใจแรกที่ไป สน.ตั้งใจไปแจ้งความ แต่ว่าด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องใช้สำนวน พยานอะไรมากกว่านี้ แนะนำว่าให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนดีกว่า การแจ้งความมันมีขั้นตอนยุ่งยาก เพราะเขาคิดว่าคนร้ายไม่น่ากล้ากลับมาแล้ว

 

6. และได้เข้าไปคุยกับทางนิติบุคคลด้วย เพราะ รปภ.ก็สามารถถ่ายป้ายทะเบียนคนร้ายได้ ก็ไปคุยว่าเขามีพฤติกรรมแบบนี้ และขู่ฆ่าทำร้ายร่างกาย ระหว่างนี้ให้นิติและ รปภ.ช่วยสกรีนให้หน่อยได้มั้ย ถ้ามีรถคันนี้ ทะเบียนนี้มาอีก หรือคนลักษณะหน้าตาแบบนี้เข้ามาก็ไม่ต้องให้เขาเข้าได้มั้ย ถ้าเขาพยายามเข้าให้โทรแจ้งเราหน่อย เขาก็โอเค บอกว่าเราช่วยสกรีนให้ ดูแลรักษาความปลอดภัยให้เต็มที่


"เขาคิดว่า คนร้าย (ไรเดอร์หัวร้อน) ไม่น่ากล้ากลับมาแล้ว"

7. แถมเรื่องนี้ ร้อยเวรที่แนะนำให้ลงบันทึกประจำวันมากกว่ารับเรื่องแจ้งความ นิติคอนโด และรปภ. เขาคิดว่า ไรเดอร์หัวร้อน คนร้ายไม่น่ากล้ากลับมาแล้ว 

 

8. บอกเหมือนกันหมด ร้อยเวร สน.ตลิ่งชัน นิติคอนโด รปภ. เชื่อว่าคนร้ายไม่กลับมาอีกแล้ว คุณหนุ่มกรรชัย กำเนิดพลอย ให้เปิดคลิปวันรุ่นขึ้น คือ วันที่ 8 ธันวาคม ไรเดอร์หัวร้อนคนดังกล่าว ย้อนกลับมาที่ร้านอาหารอีกครั้ง พร้อมถือมีดเข้ามาที่ร้าน ปรี่ตรงเข้าไปทำร้ายเจ้าของร้านผู้หญิงก่อน จากนั้นทำร้ายเจ้าของร้านที่เป็นผู้ชาย ในร้านชุลมุน ส่งผลให้เจ้าของร้านทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ โดยคุณเมย์ ได้รับบาดเจ็บเอ็นอักเสบ แล้วเหมือนโดนแรงกระแทก เลือดออกทางช่องคลอด รู้สึกผวา ส่วนคุณภีมย์ ถูกฟันที่นิ้วต้องคอยล้างแผลทุกวัน หมอให้ดูอาการว่าจะติดเชื้อหรือเน่าหรือเปล่า และมีแผลบริเวณที่คอ 

 

9. จากนั้นคุณภีม และคุณเมย์เข้าไปแจ้งความที่ สน.ตลิ่งชัน อีกครั้ง แต่กลับเจอตำรวจร้องให้มาอีกวัน เนื่องจากต้องแจ้งความกับร้อนเวรที่รับเรื่องครั้งแรก ตรงนี้คุณหนุ่ม กรรชัย สอบถามยังนายเกิดโชค เกษมวงศ์วิจิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ถึงประเด็นดังกล่าว 

 

"ตำรวจไม่รับถือว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ คุกเลยนะ"

 

10. ในระบบตร.เท่าที่ดู การเป็นเจ้าของสำนวนคือวันที่ 7 น้องเขาไปแจ้งความกับ ก. แล้วถ้าเป็นเคสปกติฉุกเฉิน ตร.มีหน้าที่ต้องรับหมด แต่บังเอิญเคสนี้น้องเขาไปอยู่ รพ. หรืออะไรก็ตาม เขาจะกลับไปแจ้งความ แต่ทีนี้ ตร.อาจเห็นใจก็ได้ เพราะจริงๆ ตร.มีหน้าที่ไปรับแจ้งความที่ รพ.ด้วยซ้ำ เขาต้องไปสอบปากคำที่ รพ. เขาก็จะให้เจ้าของสำนวนเดินไปสอบสวน มันก็เหมือนเคสรถชน หรืออะไรก็ตาม ตร.จะหาเวลาไปในห้องคนบาดเจ็บเพื่อสอบสวนที่ห้อง เป็นหน้าที่เขา แต่จริง ๆ ตำรวจมีหน้าที่รับ

 

11. ในขณะนั้น คุณหนุ่ม กรรชัย ได้ถามถึงการปฏฺบัติหน้าที่ของการรับแจ้งความจาก ทนายสงกรานต์ โดยมีละเอียดว่า ตำรวจไม่รับถือว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ คุกเลยนะ จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท ยังไงก็เป็นหน้าที่ ถึงคนเก่าจะย้ายไป คนใหม่ก็ต้องรับสำนวนแทน จริงๆ แล้วสำนวนเดิมมันมีอยู่แล้ว สามารถรับสำนวนเดิมมาพิจารณาในคดีอาญาต่อได้เลย

 

12. หลังจากนั้นได้ต่อสายไปยังคุณพ่อของไรเดอร์หัวร้อน ซึ่งเขารู้ตอนช่วงเที่ยง พอดีไปรักษาตา ดูคุณหนุ่ม เห็นปุ๊บก็รู้ว่าเป็นลูก เลยโทรปรึกษาตำรวจว่าต้องส่งยังไง ทำยังไง ตำรวจแนะนำมาปุ๊บก็นัดว่าประมาณ 5 โมงเย็นวันที่ 9 จะไปส่ง โดยลูกของเขาติดยาเสพติด พาไปรักษาหลายที่แล้ว แต่ไม่ยอมหายสักที ออกมาก็เสพอยู่

 

13. และพ่อวิทย์ ยังบอกว่า เรื่องคดีความก็แล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเลย ผมบอกตรง ๆ เลยนะ ถ้าลูกอยู่ในคุกลูกไม่สามารถเสพยาได้ ถ้าลูกอยู่ข้างนอกเสพยาได้ อันนี้คือหัวอกผู้ปกครองที่ลูกติดยาเสพติดทั้งหมด ผมรับประกันได้

 

"ถ้าลูกอยู่ในคุก ลูกไม่สามารถเสพยาได้"

 

14. ทั้งนี้ พ่อไรเดอร์หัวร้อน ยังกล่าวว่า ต้องขอโทษมาก ๆ ลูกผมก็เลี้ยงได้แต่ตัว อย่างอื่นก็เลี้ยงไม่ได้ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ต้องขออภัยมากๆ

 

15. จับกุมตัวไรเดอร์หัวร้อนคนดังกล่าวเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายจตุพร พูลขุมทรัพย์ อายุ 31 ปี โดยเจอข้อหาพยายามฆ่า และพกมีดไปในพื้นที่

 

16. จาการสอบสวน นายจตุพร รับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำไปเพราะไม่พอใจที่เจ้าของร้านให้เดินมารับอาหารเอง ทั้งที่ตัวเองขาเจ็บเดินไม่ค่อยไหว

 

ขอให้ทุกคนปลอดภัย

คนไทยต้องไม่หัวร้อนกันนะ! เช็ค วิธีห่างไกล 'อาการหัวร้อน' ทำได้แบบนี้ very good

 

ติดตามรายการโหนกระแสล่าสุด ช่อง 3 ด้วยการ ดูทีวีออนไลน์ที่ TrueID หรือเพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส ตอนล่าสุด

 

ภาพ : มติชน

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง