เปิดแนวปฏิบัติพนักงานออฟฟิศ ทำงานให้ปลอดภัยจากโควิด-19
ข่าววันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2565) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่าการไปทำงาน หมายถึง การเดินทางจากบ้านไปยังที่ทำงาน ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนในที่ทำงานใช้ชีวิตในสถานที่ทำงานนั้น จึงมีคำแนะนำในช่วงโรคระบาดให้อยู่บ้าน หรือทำงานจากบ้าน (Work from home) ถ้าจำเป็นต้องไปทำงาน สิ่งที่ทุกคนทำงานต้องทำเป็นสิ่งแรก คือ ไปฉีดวัคซีน
“ตอนนี้มีการจัดสรรให้จนถึงฉีดเข็มที่ 3 คือ เข็มกระตุ้นภูมิหลังฉีดครบ 2 เข็ม แล้ว ถือเป็นหน้าที่สำคัญ แต่สิ่งที่ต้องระลึกถึงเสมอคือ วัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ แต่สามารถลดความรุนแรงของเชื้อได้ คนทำงานอยู่ในช่วงวัยหนุ่มวัยฉกรรจ์ จะได้ข่าวมาว่าเชื้อโควิด-19 ตัวใหม่คือ โอมิครอน นั้นมีอาการไม่รุนแรงมาก จึงไม่ค่อยกลัว แต่อย่าลืมว่าท่านเป็นแหล่งแพร่เชื้อได้ เมื่อกลับไปบ้านอาจไปติดคนในครอบครัวของเราซึ่งยังไม่ฉีดวัคซีน และอาจมีกลุ่มเสี่ยงสูงเมื่อเป็นอาการอาจจะรุนแรงกว่าในวัยเรา” นพ.สมศักดิ์ กล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังมีอาการซึ่งเรียกว่า POST COVID คือ อาการที่เป็นหลังติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอาจจะรุนแรงถึงขนาดทำงานไม่ได้ ปัจจุบันพบมากขึ้นเรื่อยๆ
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การเป็น COVID หลายๆ คนในประเทศ มีผลกับระบบสุขภาพ ผู้ที่ป่วยจะไปพบแพทย์จำนวนมาก ทำให้ระบบสาธารณสุขตึงตัวขึ้นมาอีก การติดเชื้อจำนวนมากทำให้เกิดการกลายพันธ์ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตของเราเอง และประชาชนอื่น ๆ ทำให้งานต้องติดขัด ถ้ามีคนติดเชื้อจำนวนมาก ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคนี้เด็ดขาดหรือวัคซีนที่ป้องกันโรคได้ 100% เราควรป้องกันตนเองและป้องกันผู้อื่น เมื่อต้องออกไปทำงาน ไม่ลืมมาตรการ DMHTT คือ พยายามอย่าอยู่ในฝูงชนหรืออยู่ใกล้ชิดผู้อื่นมากเกิน 1 เมตร สวมหน้ากากอนามัย เพราะเชื้อไวรัสสามารถกระจายในอากาศได้นาน จึงต้องใส่หน้ากากอนามัยชนิด medical grade หรือใส่หน้ากากอนามัยและใส่หน้ากากผ้าทับ ไม่จำเป็นต้องใส่ N95 ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนหยิบจับสิ่งของ เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายจากตัวเรา และหลังหยิบจับสิ่งของควรใช้ alcohol spray หรือ alcohol gel 70% ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้งก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ ควร scan application ไทยชนะจะได้แจ้งข้อมูลหากพบผู้ติดเชื้อ
ด้าน นพ.เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการ รพ.นพรัตนราชธานี กล่าวว่า สถานที่ทำงานให้สวมหน้ากากและควรเหลื่อมเวลาทำงานและเวลาพักรับประทานอาหาร หรือให้ทำงานที่บ้านเพื่อลดความแออัดในที่ทำงาน ต้องมีมาตรการป้องกัน เช่น การเว้นระยะห่างเก้าอี้ เนื่องจากเชื้อโอมิครอนนี้ ไม่มีอาการในคนแข็งแรง จึงอาจจะต้องมีการตรวจ ATK ในหน่วยงานเป็นประจำ รวมทั้งจะต้องทราบว่า เมื่อมีอาการจะต้องอยู่ที่บ้าน และตรวจ ATK ด้วยตนเองด้วย เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อให้ผู้อื่น ดังที่ สธ.ให้ใช้มาตรการ VUCA คือ ต้องฉีดวัคซีน ป้องกันตัวเองตลอดเวลารอบทิศทาง การทำให้สถานที่ทำงานเราและที่บ้านเป็นที่ปลอดภัยจากโควิด-19 (COVID FREE) และการตรวจ ATK เป็นประจำ