หมอชี้ไทยตายต่ำสิบวันแรก ย้ำ! กลุ่มเสี่ยง 608 ต้องบูตส์วัคซีนโควิดตามระยะ
เมื่อวันที่ 16 มกราคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วันนี้ประเทศไทยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ตัวเลขต่ำกว่า 10 ราย ว่า วันนี้เป็นวันแรกในรอบหลายๆ เดือน ที่มีการรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในประเทศไทยในการระบาดคราวนี้น้อยกว่า 10 ราย ซึ่งเกิดจากหลายเหตุผล แต่สำคัญที่สุดคือ ตัวเลขผู้ป่วยอาการหนัก ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจลดลงต่อเนื่องหลายเดือน รวมถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ นพ.โอภาส กล่าวว่า หากสังเกตจะพบว่าผู้เสียชีวิต 9 รายใหม่วันนี้ ทุกรายเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรั้ง และหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งในจำนวน 9 รายนี้ มี 1 ราย ที่รับวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็ม มา 4 เดือนแล้ว ดังนั้น ก็จะมีโอกาสติดเชื้อและเสียชีวิตได้
“ดังนั้น ตามนโยบายของ สธ.ที่เร่งกระตุ้นวัคซีนในเข็มที่ 3 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง เราจึงขอให้กลุ่มเสี่ยงเข้ามารับวัคซีนบูสเตอร์โดสตามกำหนด” นพ.โอภาส กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพบว่าฉีดวัคซีนครบมา 4 เดือนแล้ว ติดเชื้อถึงขั้นเสียชีวิตได้ จะทราบอย่างไรว่าแต่ละคนภูมิต้านทานเหลือมากน้อยอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า สธ.จะมีการสุ่มตรวจเลือดประชาชนเป็นระยะ เพื่อดูข้อมูลและประกาศให้เข้ามารับบูสเตอร์โดส
“โดยเราพบว่าเมื่อรับเข็มที่ 2 ไปแล้ว 3 เดือน ภูมิคุ้มกันเริ่มตก และเมื่อมีเชื้อโอมิครอนที่ระบาดเร็ว ก็อาจต้องการภูมิฯ สูงขึ้นเล็กน้อย เราจึงประกาศว่าให้กลุ่มเสี่ยง 608 เข้ามารับวัคซีนเข็มที่ 3 หลังจากรับเข็มที่ 2 มาแล้ว 3 เดือน กลุ่ม 608 ขอให้มารับตามที่กำหนดได้เลย คือ ครบ 2 เข็ม เดือนตุลาคม 2564 ให้ไปรับเข็มที่ 3 ได้เดือนนี้ ครบ 2 เข็ม เดือนพฤศจิกายน 2564 ก็ให้รับเดือนหน้า ครบ 2 เข็ม เดือนธันวาคม 2564 ก็ไปรับในเดือนมีนาคม” นพ.โอภาส กล่าว
เมื่อถามตัวเลขผู้ติดเชื้อจะยังคงเหวี่ยงขึ้นลงอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้เราได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมในทุกกลุ่มแล้ว และมีการกระตุ้นเข็มที่ 3 รวมถึงจำนวนผู้ป่วยอาการหนักก็ไม่มาก แต่เนื่องจากระยะนี้ พบว่าเชื้อโอมิครอนติดได้ค่อนข้างง่าย คนเริ่มทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น เพราะเราไม่อยากต้องปิดกิจการ/กิจกรรมนาน กลัวเศรษฐกิจเสียหาย คนตกงานจะมากขึ้น ดังนั้น หากติดเชื้อในระดับนี้ ระบบสาธารณสุขก็ยังรองรับได้ โดยเฉพาะความร่วมมือในการเข้าระบบแยกกักที่บ้านและชุมชน (Home and community Isolation) เพื่อให้มีเตียงรองรับผู้ป่วยอาการหนัก ให้ได้รับการดูแลในโรงพยาบาล (รพ.)
“เราคาดว่า หากทุกคนมารับวัคซีนตามกำหนด ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเฉลี่ยที่วันละ 20 ราย ไม่น่าจะสูงกว่านี้ แต่คิดว่าจะอยู่ในระดับต่ำสิบหรือสิบเล็กน้อยอีกระยะหนึ่ง เพราะกลุ่มเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่ม 608 และย้ำว่ากลุ่มนี้ แม้จะได้รับวัคซีนก็ต้องมารับเข็มกระตุ้น” นพ.โอภาส กล่าว