ถอดรหัสอนาคตไทย ใต้ทิศทาง “แพทองธาร”

นายกฯ แพทองธาร เปิดใจในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ย้ำเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส เร่งสร้างระบบเตือนภัย-เจรจาการค้า-ดัน Entertainment Complex
ในสถานการณ์ที่โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” กลายเป็นพื้นที่สื่อสารสำคัญ ที่นายกรัฐมนตรีหญิงของไทยใช้สื่อสารตรงกับประชาชนและนักลงทุน ผ่านวิสัยทัศน์และนโยบายเชิงรุกเพื่อพาประเทศไทยฝ่ามรสุมเศรษฐกิจและภัยพิบัติ
ในรายการตอนพิเศษ วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวอย่างเปิดใจถึงบทเรียนจากวิกฤตแผ่นดินไหว การสื่อสารฉุกเฉิน การสืบหาความจริงเหตุอาคารถล่ม มาตรการเจรจาการค้าโลก ไปจนถึงการยกระดับศักยภาพชุมชนและเยาวชนไทย
ประเด็นสำคัญ
• รับมือแผ่นดินไหว – พัฒนา Cell Broadcast แจ้งเตือนภัยแบบทันที
• เร่งสอบเหตุถล่ม สตง. – ยืนยันเอาผิดหากพบความบกพร่อง
• ตั้งรับ “กำแพงภาษีสหรัฐฯ” – เจรจาเชิงรุกรักษาผลประโยชน์ผู้ประกอบการไทย
• Entertainment Complex – ผลักดันโมเดลสิงคโปร์ เพิ่มรายได้ประเทศ
• “เอสเอ็มแอล” - “โอดอส” – กระจายอำนาจสู่ชุมชน ปูทางโอกาสเด็กไทย
รายการตอนพิเศษนี้ถือเป็นการ “เคาะนโยบายใจกลางทำเนียบ” ที่ถอดรหัสแนวทางนำพาประเทศผ่านความท้าทาย ด้วยน้ำเสียงของผู้นำหญิงที่ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมนำทุกวิกฤตเปลี่ยนเป็นโอกาส ด้วยการรับฟัง ลงมือจริง และออกแบบระบบให้พร้อมลุยทุกสถานการณ์
รับมือแผ่นดินไหวด้วยระบบเตือนภัยใหม่
หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว 28 มีนาคม ที่ผ่านมา แพทองธารเผยว่า ได้สั่งเปิดประชุมด่วนกับทุกหน่วยงานแม้ขณะอยู่ภูเก็ต พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพฯ ทันที พร้อมวางบทบาท กทม. เป็นหน่วยปฏิบัติการด่านหน้า
นายกฯ ยอมรับว่าระบบ SMS แจ้งเตือนยังไม่ทันการณ์ ส่งได้เพียง 1,000 หมายเลข ใช้เวลาหลายชั่วโมง จึงเร่งบูรณาการหน่วยงานพัฒนาระบบใหม่คือ Cell Broadcast ที่สามารถแจ้งเตือนฉุกเฉินแบบทันที ครอบคลุมผู้ใช้นับล้านในพื้นที่เสี่ยง โดยไม่จำกัดแค่แผ่นดินไหว แต่ครอบคลุมถึงน้ำท่วม-เหตุความไม่สงบด้วย
“ตึกถล่ม” ต้องมีคำตอบ – นายกฯ กำชับหาความจริง
กรณีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม นายกรัฐมนตรีกล่าวอย่างชัดเจนว่า “ตนรับไม่ได้หากไม่มีคำตอบเรื่องนี้” พร้อมติดตามการสอบสวนอย่างใกล้ชิดทั้งจาก DSI, ตำรวจ, และกรมโยธาธิการฯ โดยให้มีการจำลองเหตุการณ์จาก 4 สถาบันเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงภายใน 90 วัน
พร้อมกันนี้ ยังเน้นว่าต้องตรวจสอบตึกอื่น ๆ ด้วย ไม่เฉพาะ สตง. เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในกทม. ให้รองรับภัยแผ่นดินไหวในอนาคต
สู้ศึก “กำแพงภาษีสหรัฐฯ” ด้วยการเจรจาเชิงรุก
แพทองธารเปิดเผยว่า รัฐบาลเริ่มเตรียมรับมือกับประเด็นภาษีการค้าของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปลายปี 2567 โดยตั้งคณะทำงานร่วมกับนักกฎหมาย เศรษฐกร และผู้เชี่ยวชาญด้านสหรัฐฯ
แม้ “มูดีส์” จะลดมุมมองเศรษฐกิจไทย แต่รัฐบาลย้ำว่าไม่ใช่การลดอันดับเครดิต พร้อมเดินหน้าดึงนักลงทุน เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีขั้นสูงที่เริ่มเข้ามาแล้ว
นายกฯ ย้ำว่า ไทยต้องเตรียมข้อมูลภาษีสินค้าให้พร้อมสำหรับการต่อรอง และเน้นการรวมพลังกับอาเซียนเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเวทีการค้าโลก
ดัน Entertainment Complex – ไทยต้องมีจุดหมายสร้างเอง
นายกรัฐมนตรีระบุว่า Entertainment Complex ไม่ใช่แค่กาสิโน แต่เป็นโครงการครบวงจรตามโมเดลสิงคโปร์ มีอีเวนต์-คอนเสิร์ต-โรงแรม-พื้นที่ท่องเที่ยวครบวงจร ใช้เงินทุนเอกชน ไม่กระทบภาษีประชาชน
ส่วนกาสิโน จะดำเนินการภายใต้ “Responsible Gambling” ตรวจสอบผู้เล่นเข้มตามมาตรฐานสากล เป้าหมายคือสร้าง “Man-made Destination” ดึงนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
ปั้นโอกาสคนไทยผ่าน “เอสเอ็มแอล” และ “โอดอส”
แพทองธารกล่าวว่า เอสเอ็มแอล คือการกระจายอำนาจให้ชาวบ้านได้คิดและตัดสินใจเองว่าจะใช้งบประมาณเพื่อพัฒนาชุมชนอย่างไร ผ่านกระบวนการประชาคม
ส่วน “โอดอส” คือการให้โอกาสเด็กไทยได้เปิดโลก โดยไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ขอเพียงตั้งใจสมัครร่วมโครงการ เช่น ODOS Summer Camp ที่พาไปเรียนต่างประเทศ ด้วยงบ 5.3 พันล้านบาทจากฉลากการกุศล พร้อมชวนโหลดแอป “ทางรัฐ” เพื่อสมัครเข้าร่วม
รายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ตอนพิเศษ สะท้อนภาพของผู้นำที่ไม่เพียงแค่นั่งมองปัญหา แต่ลุกขึ้นบริหารวิกฤตด้วยระบบ วางแผนเชิงรุกทั้งในประเทศและต่างประเทศ และที่สำคัญคือ สื่อสารให้ประชาชนรับรู้ตลอดเวลา
จากภัยธรรมชาติ สู่เศรษฐกิจโลก และการยกระดับคนไทยในทุกระดับชั้น แพทองธารกำลังส่งสัญญาณว่า “โอกาส” ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือสิ่งที่รัฐบาลสร้างขึ้นได้ – หากมีความเชื่อมั่น และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน